กว่า Knot จะขับรถมาถึง London ก็บ่ายแก่ๆ เข้าเช็คอินเข้าที่พัก ขนข้าวของที่เราซื้อหากันมา คนละหลายถุง หลายกระเป๋า ค่อยๆ ทะยอยขนขึ้นห้อง ขนของเสร็จ Knot ก็ขับรถไปคืนที่ Heathrow Airport ครั้งที่แล้วรถที่เช่ามาจาก Easyrent เพราะราคาดีค่ะ รถก็สะอาดพอสมควร แต่ขนาดรถได้ตามที่ Knot จองมา ครั้งนี้เราใช้บริการของ Hertz ค่ะ เลือกเพราะราคาดี บริการก็ดีค่ะ ครั้งนี้ (Aug 18) Knot จองเป็น Skoda หรือเทียบเท่าค่ะ ตอนรับรถพนักงานอัพเกรดให้เป็น MB A class สีเทา สรุปได้ขับรถที่คุ้นเคย เราขับรถมาคืนที่เดียวกับที่เรารับรถ แล้วคุณลุงก็พาเราไปส่งที่ Tube Station เราก็นั่งรถไฟใต้ดิน หรือ Tube กลับไปที่พักกันค่ะ

ที่พัก Hotel Moonlight – Earl’s Court, London

ครั้งที่แล้ว Knot เลือกพักที่ Commodore Hotel การจองที่พักในลอนดอนครั้งนี้ Knot ใช้บริการของบริษัททัวร์ที่ใช้จัดทริปพาลูกค้าไปท่องเที่ยวค่ะ ราคาที่ได้ค่อนข้างดี ไม่รวมอาหารเช้า ห้องพักเป็นห้อง Twins ขนาด 20 ตร.ม. ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับปริมาณของที่เราหอบหิ้วกันมา ห้องพัก เฟอร์นิเจอร์ และสุขภัณฑ์ค่อนข้างเก่า แต่สะอาด ที่สำคัญคือทำเลยอดเยี่ยมมาก ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสองแห่ง คือ Queensway และ Bayswater แต่แนะนำให้ไปขึ้นรถที่ Bayswater ค่ะ เพราะมีรถผ่านหลายสาย ไม่ต้องต่อรถมากค่ะ

คราวนี้ที่พักเดิมราคาแพงมาก แล้วการเดินทางก็หลายต่อพอสมควรจากประสบการครั้งที่แล้ว ทำให้ลองหาที่ใหม่ค่ะ เป็นโรงแรมใหม่ ชื่อ Hotel Moonlight อยู่ที่ Earl’s Court โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินประมาณ 400 ม หน้าสถานีมีของกินเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Paul, McDonald’s, Co-Op, ร้านอาหารไทย อินเดีย เนปาล มีครบค่ะ สถานีนี้มีรถไฟสายสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในลอนดอนผ่าน คือ Picadilly line หรือสายสีน้ำเงินที่เรียกได้ว่าผ่านสถานที่ท่องเที่ยงแทบจะจุดเลยค่ะ ที่พักสวยงาม เราได้ห้องมุมค่ะ เป็น Club room ด้วย ห้องก็จะใหญ่นิดนึง มองเห็นถนนค่ะ

Hotel Moonlight
Hotel Moonlight
Hotel Moonlight
Hotel Moonlight

Four Seasons @Bayswater

แน่นอนว่า หากมาเที่ยวลอนดอน ร้านที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งร้าน ก็คือ Four Seasons ซึ่งเมนูเด็ดที่หลายๆ คนต้องมาก็คือ เป็ดโฟร์ซีซั่นนั่นเอง ตอนที่เรียนอยู่ที่นี่ Knot เคยมาร้านนี้แค่ครั้งเดียวค่ะ เพราะเป็ดเชอรี่ มันเยอะมาก แต่ชอบข้าวผัดไข่ เส้นหมี่ และหมูแดงของเค้ามากกว่าค่ะ

Four Seasons
ฉลองมื้อแรกในลอนดอนด้วย Four Seasons

จริงๆ ก็สั่งมาครบทุกรายการนะคะ แต่เนื่องจากหิวมาก เลยถ่ายรูปมาไม่ครบค่ะ มาถึงร้านครั้งนี้โชคดีพอสมควร รอไม่นานมากค่ะ ประมาณครึ่งชั่วโมง คือจริงๆ พี่สาวเดินมาจองคิวก่อนแล้ว พอถึงคิว คนไม่ครบพนักงานเลยไม่ให้นั่งโต๊ะค่ะ เค้ากลัวเราจะรอกันนานแล้วเสียโอกาสในการขายของเค้าค่ะ พอมากันครบก็รออีกแป๊บนึงก็ได้โต๊ะค่ะ

ตอนปลายปี 2016 ไปรอนานมาก เกือบสองชั่วโมงยังไม่ได้โต๊ะ อากาศก็หนาวมาก รอจนต้องตัดสินใจเปลี่ยนร้านไปกินที่ร้านจีนที่เลยเข้าไปอีกนิด ร้านนั้น หมูกรอบอร่อยมาก พอๆ กับติ่มซ่ำ แถวๆ นั้น ยังมีร้านอาหารจีนที่ Knot ชอบอีกร้านที่อยู่ก่อนถึง Four Seasons พายหมูแดงอร่อยมาก เป็ดย่างเค้ามันจะน้อยกว่าที่โฟร์ซีซั่นค่ะ แต่เค้ากำหนดว่าขั้นต่ำต้องสั่งเฉลี่ยคนละ 10 ปอนด์ค่ะ เรียกว่าถ้าไม่หิวจริงๆ อย่าเข้าไปค่ะ

แล้วก็มีร้านอาหารไทยติดร้าน Four Seasons ติดป้ายหน้าร้านว่าสามารถซื้อเป็ดเข้ามานั่งทานร่วมกับอาหารของที่ร้านได้ค่ะ เป็นการดึงดูดลูกค้าที่มารอคิวโต๊ะของโฟร์ซีซั่นที่ยาวและนานมาก Four Seasons สาขานี้เป็นสาขา Originals ค่ะ คนเลยเยอะตลอดเวลา จองยากมากค่ะ ต้องมีเส้นจริงๆ คือมีเพื่อนของ Knot คนนึงสามารถจองโต๊ะได้ แต่ต้องตรงเวลาๆ มากๆ ค่ะ

นอกจากคิวยาวแล้ว หากเราเข้าไปนั่งปุ๊บ เราอาจจะนึกว่าเรากลับมาเมืองไทยได้เลยค่ะ ลูกค้าส่วนมากเป็นคนไทย ฝรั่งน้อยมากค่ะ พนักงาน/คุณป้าที่รับออเดอร์ พูดไทยได้ค่ะ ของซอส ขอน้ำชา ขอเข้า ภาษาไทยได้หมดค่ะ ร้านเค้ากลุ่มเป้าหมายชัดเจนค่ะ นั่นคือ คนไทย แน่นอนค่ะ

หลังจากอิ่มท้องเราก็พากันเดินกลับที่พักค่ะ สามทุ่มกว่า ฟ้าเริ่มมืด อากาศเริ่มเย็นค่ะ ระหว่างทางก็แวะซื้อน้ำ ซื้อผลไม้ และขนมเอาไว้กินกันกลางคืน เผื่อถึงตอนเช้าคะ่

การเดินทางในลอนดอน

ขนส่งสาธารณะในลอนดอนค่อนข้างสะดวกสบายค่ะ มีรถเมล์สองชั้นสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนวิ่งทั้งกลางวันและกลางคืน (Night Bus) ซึ่งเราสามารถดาวน์โหลดเส้นทางการเดินรถได้จากเว็บ Transportation of London ต้องระวังนิดนึงเพราะตกกลางคืน สายรถที่วิ่งตอนกลางวันจะเปลี่ยนเลขค่ะ จะมี N นำหน้าและเปลี่ยนจุดจอดด้วยนะคะ ต้องดูดีๆ แนะนำว่าถ้าไม่มั่นใจก่อนขึ้นรถ ควรถามคนขับก่อนค่ะ ว่าผ่านจุดที่เราจะไปหรือไม่ แล้วเค้าจะประกาศให้เราทราบเมื่อถึงป้ายที่เราต้องลงค่ะ

London Bus, Notting Hill
Regent Street
London Bus
London Bus at Regent Street

นอกจากรถเมล์แล้ว ก็มี London Underground หรือรถไฟใต้ดินค่ะ แต่คนอังกฤษมักเรียกกันว่า Tube หรือท่อ เพราะรถวิ่งในท่อนั่นเองค่ะ Tube จะมีการแบ่งโซนเพื่อจัดการค่าโดยสารค่ะ ลอนดอนมีทั้งหมด 5 โซนค่ะ โซน 1-2 คือใจกลางเมือง ซึ่ง Knot จะใช้เวลาที่เหลือของทริปนี้ค่ะ โซน 3 จะออกนอกเมืองมานิดนึงเป็นโซนพักอาศัย โซน 5 จะเป็นชานเมืองลอนดอน จะมีสนามบิน สนามกีฬา สนามเทนนิสวิมเบิลดันก็อยู่โซนนี้ค่ะ สามารถดาวน์โหลดแผนที่ London Underground ได้ที่เว็บไซต์ Transportation of London

อย่างหนึ่งที่รถสาธารณะที่ลอนดอนมีแต่เราไม่มีก็คือ บัตรโดยสารที่สามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ ตั้งแต่ตอนเป็นตั๋วกระดาษ จนเป็นบัตรแข็งค่ะ ถ้าเราซื้อ One day pass เราจะสามารถใช้ได้ทั้งรถเมล์ รถไฟใต้ดิน เป็นเวลา 24 ชม นับตั้งแต่การใช้ตั๋วครั้งแรกค่ะ

London Underground

การเดินทางระหว่างที่อยู่ในลอนดอนของพวกเรา หลักๆ ที่วางแผนไว้ ก็คือการเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน London Underground หรือที่คนท้องถิ่นจะเรียกกันสั้นๆ ว่า Tube ในภาพเป็น District line หรือสายสีเขียว ที่สถานี Earl’s Court ซึ่งเป็นสายที่อยู่บนดินจนเข้ากลางเมืองค่ะ แต่พอเข้ากลางเมืองสายนี้จะทับกับ Circle Line หรือสายสีเหลืองค่ะ

Earl’s Court Station
Tube Station
London Tube
Tube Station
Westminster Station

ครั้งนี้ในลอนดอน Knot เลือกที่จะซื้อ Oyster card ซึ่งเราสามารถซื้อได้จากเครื่องอัตโนมัติ พร้อมเติมเงินได้เลยค่ะ สี่วัน/สี่คืนในลอนดอน Knot คำนวนคร่าวๆ ว่า 20 ปอนด์น่าจะพอค่ะ รวมค่ามัดจำ 10 ปอนด์ ก็ประมาณ 30 ปอนด์ต่อคน เราสามารถรับเงินมัดจำคืนได้เมื่อเรา return card ที่ตู้อัตโนมัติที่สถานีต่างๆ ได้เลย รวมถึงที่สนามบิน Heathrow ด้วยค่ะ ดังนั้น จึงไม่คุ้มที่จะซื้อเป็น Travel Pass แบบ 3 วัน หรือ 7 วัน เพราะราคารวมแล้วจะแพงกว่าหรือใกล้เคียงกันกับที่เราใช้ Oyster card ค่ะ เพราะหลักๆ เราจะเที่ยวตอนเช้า แล้วช้อปปิ้งตอนบ่ายในแหล่งช้อปปิ้งใกล้สถานที่เที่ยวของเรานั่นเองค่ะ การเดินทางของเราจึงไม่เยอะมากค่ะ

การคิดค่าโดยสารของ Oyster card จะคิดเป็นเที่ยว ตามโซนที่เราเดินทางผ่าน เฉพาะในโซนหนึ่ง ค่าโดยสารจะอยู่ประมาณสองปอนด์กว่าๆ ต่อเที่ยวค่ะ โดยค่าโดยสารที่ใช้ Oyster card จะถูกกว่าอัตราค่าโดยสารที่ซื้อเป็นเที่ยวโดยการหยอดตู้ค่ะ เพื่อเป็นการจูงใจให้ใช้บัตรค่ะ

เที่ยว London City Centre

เช้าวันที่สองของ Knot ในลอนดอนทริปนี้ เริ่มต้นจากการไปเดินเที่ยวเล่นที่ Covent Garden นัดเจอเพื่อนพี่สาว แล้วค่อยไปเที่ยวกันต่อค่ะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนชิลๆ ของเรา

Covent Garden

จากที่พัก Knot เดินไปขึ้นรถไฟไปลงสถานี Covent Garden เลยค่ะ จริงๆ สามารถลงที่สถานีอื่นที่ใกล้ๆ เช่น Charing cross หรือ Leicester Square แล้วเดินไปที่ Covent garden ก็ได้ค่ะ จะมาที่นี่เราสามารถลงสถานีใดก็ได้ค่ะ แล้วเดือนมา แต่สถานี Covent Garden จะใกล้ที่สุด คือลงปุ๊บ เดินออกมาเลี้ยวขวานิดนึงก็ถึงเลยค่ะ ถนนที่เดินจากสถานีไปที่ตลาดก็จะมีนักแสดงอิสระมาแสดง เพื่อหารายได้กันค่ะ

Covent Garden
Covent Garden
Covent Garden

เมื่อมาถึง เรายังไม่ได้ทานอาหารเช้ากันเลย ก็เลยจัดการเติมท้องให้อิ่มด้วย อาหารเช้าของ Mark and Spencers หรือ M&S อยู่หน้าตลาดเลยค่ะ

a cuppa
Breakfast at M&S

จาก Tube Station เดินเท้ามาถึงตลาดโดยใช้ Google maps ไม่กี่นาทีค่ะ จะเห็นร้าน Muji เล็กๆ ด้วยค่ะ แต่ราคาแพงมากมาย

Covent Garden เคยเป็นตลาดผักและผลไม้ชื่อดังของโลก ปัจจุบันยังมี Apple Market ที่ยังมีการค้าขายอยู่แต่เป็นการเปิดเป็นร้านค้าต่างๆ ตอนสายๆ ตามถนนจะมีนักแสดง มาแสดงดนตรีบ้าง หุ่นบ้าง ให้เราชม และให้เงินตามศรัทธาค่ะ

วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ตลาด Apple Market จะมีร้านเครื่องประดับทำมือต่างๆ ภาพพิมพ์ ภาพเขียน งานหัตกรรมต่างๆ ให้เลือกซื้อ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบงาน Handmade ต่างๆ วันจันทร์จะเป็นวันของของเก่าและสิ่งสะสมต่างๆ ค่ะ

มาที่นี่กี่ครั้ง Knot ไม่เคยพลาดการกิน Ben’s Cookies เลยสักครั้งค่ะ ราคาก็ชิ้ละ 1.6-1.8 ปอนด์ ตามน้ำหนักค่ะ ถ้าจะให้คุ้มต้องซื้อเป็นกล่องค่ะ แบบซื้อ 5 แถม 2 จะบอกว่ากล่อง Tin น่ารักมาค่ะ ควรมีไว้ในครอบครองสักนิด

Ben's Cookies
Ben’s Cookies @Covent Garden
Ben’s Cookies
Cookies @ Ben's
Cookies @ Ben’s

ทางฝั่งตะวันออกจะมี East Colonnade Market ซึ่งมีร้านค้าต่างๆ มากมาย เช่น สบู่ทำมือ เครื่องประดับ เสื้อผ้าเด็ก ของหวาน ของเล่นต่างๆ เครื่องใช้ในบ้านค่ะ

พลาซ่าทางใต้ จะมี Jubilee Market จะเปลี่ยนของที่ขายทุกวันค่ะ วันจันทร์จะเป็นของเก่า อังคารถึงศุกร์เป็นตลาดผ้าและสินค้าอุปโภคบริโภค เสาร์อาทิตย์เปลี่ยนเป็นตลาดค้าศิลปะหัตถกรรมต่างๆ

สำหรับโพสต์นี้ Knot ขอจบไว้ตรงนี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามได้ที่ Facebook @TripsinMyMemory หรือ Instagram @TripsinMyMemory แล้วฝากความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ หากใครสนใจจะไปเที่ยวอังกฤษสอบถามได้นะคะ พร้อมให้คำปรึกษาเสมอค่ะ ตอนต่อไป Knot พาไปตะลุยลอนดอนกันต่อค่ะ