ทริปดูไบของ Knot ครั้งนี้เป็นทริปด่วน ไม่ได้มีการวางแผนกันล่วงหน้า เนื่องจากคุณ Juth ได้รับรางวัล Top 50 Marketing and Advertising Leaders ซึ่งต้องมารับรางวัลในงาน MADcon 2019 ที่ Dubai การเดินทางเข้าดูไบ ประเทศ UAE นั้นต้องขอ e-Visa ซึ่งหากใช้บริการของสายการบินประจำชาติของเค้า สายการบินจะเป็นสปอนเซอร์ในการยื่นขอ Visa ให้ด้วยค่ะ ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยสายการบิน Emirates Airline สายการบินที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสายการบินที่มี Business Class ที่ดีที่สุดในโลก เดี๋ยว Knot จะรีวิวการเดินทางครั้งนี้ในโพสต์ต่อไปนะคะ โพสต์นี้ขอเล่าประสบการณ์การขอ Visa โดยผ่านบริการของสายการบิน Emirates Airline ให้ฟังกันก่อนค่ะ

สาเหตุที่ต้องขอ Dubai Visa ด่วน

สาเหตุที่เป็นทริปด่วนก็เพราะทางผู้จัดเชิญคุณ Juth มาสักพักแล้ว แต่ด้วยความที่งานที่ยุ่งมาก คุณ Juth เลยไม่ได้อ่าน emails จนทีมงานต้องมาส่งข้อความไดเร็กหาที่ Linkedin เพื่อสอบถามว่าสนใจจะส่งผลงานเข้าแข่งขันไหม ซึ่งผลงานนั้นคือผลงานการทำการตลาดออนไลน์ให้กับ House of Griffin โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่เจ้าของเป็นเพื่อนรุ่นน้องของคุณ Juth รวมถึงผลงานการทำการตลาดออนไลน์อื่น ๆ ผ่าน Google Account ของคุณ Juth นั่นเอง กล่าวคือ ก่อนจะเชิญผู้จัดได้ทำการประเมินผลงานโดยใช้ Analytics เป็นคะแนนก่อนที่จะเชิญ ที่ต้องเชิญเพื่อขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลอย่างเป็นทางการ และขอข้อมูลและสอบถามเพื่อวัดวิสัยทัศน์ด้านการตลาดของคุณ Juth อีกด้วยค่ะ เมื่อเราตอบตกลงเข้าร่วม ผู้จัดได้ดำเนินการให้คณะกรรมการประเมินคะแนน แล้วผลปรากฎว่าคุณ Juth ได้รางวัล Top 50 Marketing and Advertising Leaders ค่ะ ซึ่งเราทราบกันตอนปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเรามีเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ในการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และขอ Visa ค่ะ ซึ่งส่วนนี้ Knot เป็นผู้จัดการให้ค่ะ

Photo by pranjal srivastava from Pexels

ระยะเวลาในการขอ Dubai Visa

สองสัปดาห์ เวลาเหลือเฟือค่ะ นี่คือสิ่งที่คิดในตอนแรก เพราะหาข้อมูลแล้วว่า ถ้าเราจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Emirates ทางสายการบินจะสปอนเซอร์ในการขอ e-Visa ให้เราค่ะ และสามารถขอผ่านออนไลน์ได้เลยค่ะ เอกสารในการขอ Visa หากขอผ่าน Emirates จะใช้เพียงรูปถ่ายของหน้าแรกของ Passport ที่มีรูปและข้อมูลของเราอยู่ค่ะ หน้าที่สองถ้ามีการ Endoses ใดๆ และหน้าสุดท้าย แม้ว่าจะไม่มีการใช้งานใดๆ ก็ตามค่ะ และรูปถ่ายสีขนาดตามที่กำหนดอีก 1 รูปค่ะ นอกนั้นจะเป็นเอกสารเพิ่มเติมที่ถ้าอยากส่งก็ส่งได้ เช่น สำเนาวีซ่าประเทศอื่น ๆ ทั้งที่ยังไม่หมดอายุ และหมดอายุแล้ว หนังสือรับรองการทำงาน หนังสือรับรองเงินเดือน Payslips และอื่น ๆ ตามที่เราคิดว่าอยากให้เจ้าหน้าที่พิจารณาเพื่อให้ Visa เราได้ง่ายขึ้นค่ะ

Knot จองตั๋วเครื่องบินและที่พักช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน รอรูปหนังสือเดินทางจากคุณ Juth เพื่อยื่นขอ Visa เพราะตอนแรกคิดว่าจะให้หนังสือรับรองเงินเดือนของคุณ Juth ไปด้วย แต่จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม เอกสารก็ยังไม่ออก ก็เลยยื่นเท่าที่มีไปก่อนค่ะ ได้แก่ สำเนาหน้าแรก หน้าที่สอง และหน้าหลัง พร้อมกับรูปถ่ายสีค่ะ Knot ยื่นวันที่ 4-5 ธันวาคม ชำระเงินเรียบร้อย ทาง VFS ผู้ดูแลการยื่นขอ Dubai Visa ก็ส่งอีเมลยืนยันการชำระเงินมาให้ทันที Knot ก็คิดว่าทุกอย่างเรียบร้อย พอวันที่ 8 ธันวาคมก็ได้รับอีเมลว่าวีซ่าอยู่ระหว่างดำเนินการและการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ทราบผลแลัวจะแจ้งให้ทราบภายใน 4 วันทำการ เราก็นับไป 4 วันลงที่ 12 ธันวาคม โอเค เราเดินทาง 15 ธันวาคม 9.30 น ไม่น่ามีปัญหาอะไร มีเวลาสบายๆ

ตอนเย็นของวันที่ 12 เราสองคนก็ยังไม่ได้รับ Visa ใดๆ Knot ก็เริ่มวิตก พอวันศุกร์ 13 ก็โทรหา Emirates ทั้งที่ กทม และที่ดูไบ ไม่ได้คำตอบใด ๆ เนื่องจากสายการบินไม่ใช่หน่วยงานด้านวีซ่าโดยตรง ไม่สามารถเข้าระบบติดตามใด ๆ ให้เราได้ แต่ให้ e-mail ของ Customer Support ของหน่วยงานที่ดูแลเรื่องวีซ่าให้เราส่งอีเมลไปตามค่ะ Knot เริ่มส่งอีเมล เขียน Feedback inquiry ผ่านเว็บด้วย โดยระบุหมายเลขอ้างอิง หรือ Reference number ที่มากับอีเมลฉบับแรกส่งไปด้วยทุกครั้งนะคะ ส่งแล้วจะมีอีเมลอัตโนมัติตอบกลับมาว่า จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อภายใน 24-48 ชั่วโมง ก็รอไปจนถึงวันที่ 14

ระหว่างรอ Knot ก็ไปหาข้อมูลออนไลน์ว่า Dubai เค้าหยุดทำงานวันศุกร์และวันเสาร์ ทำงานวันอาทิตย์ถึงพฤหัส อยากจะร้องกรี๊ดมาก ๆ รอไปเครียดไป ลุ้นไป ว่าเราจะได้วีซ่าทันวันที่ 15 ไหม วันที่ 14 Knot ได้รับอีเมลตอบกลับมาว่าให้รอ Visa อยู่ระหว่างการพิจารณา ตอบแบบเดิมทุกครั้งที่ส่งมา ถามเจ้าหน้าที่ก็ตอบเหมือนกัน จนมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของ Emirates บอกว่า ศุกร์-เสาร์ เป็นวันหยุด ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะทำงานช้ากว่าปกติ เราก็อืม สามทุ่มของวันที่ 14 แล้วยังไม่ได้วีซ่าเลย เลื่อนตั๋วดีกว่า ก่อนจะเครียดมากไปกว่านี้ หวังว่า วันอาทิตย์ทั้งวันเราจะได้ e-Visa มาทัน

Dubai Visa มาไม่ทันต้องเลื่อนตั๋ว

Knot เลื่อนตั๋วเครื่องบินเป็นวันที่ 16 ตอน 3.30 น. เพื่อให้มาถึงดูไบทันงาน โทรแก้ไขเรื่องที่พักเรียบร้อย ก็เข้านอนไป เช้าตื่นมา 6.36 น. มีอีเมลจาก Customer Support ส่งสำเนา Visa มาให้ แต่มีของ Knot คนเดียว ของคุณ Juth ยังไม่มา ไฟล์ทที่เราเลื่อนใหม่นี้ คนขับรถของ Emirates จะมารับเราตอนเที่ยงคืน เที่ยงแล้ววีซ่าก็ยังไม่มา บ่ายสองก็แล้ว บ่ายสามมีอีเมลส่งสำเนา e-Visa ของ Knot จากระบบมาให้อีกรอบ ก็งงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น พยายาม Track ผลการพิจารณาไม่สามารถเข้าได้เลย

สี่โมงเย็น ไม่ไหวแล้วลอง Search หาเอเจ้นต์รับทำวีซ่าดูไบบน Google ลองถามเค้าดูว่าช่วยอะไรได้ไหม ต้องได้ Visa ภายในวันนี้แล้ว ส่งสำเนาหนังสือเดินทางของคุณ Juth ไปให้ เค้าช่วยตรวจสอบให้ เอเจนต์คนนี้มาจากเว็บไซต์ชื่อ Dubaivisa.com เค้าบอกว่า Visa ของคุณ Juth ออกแล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน (วันที่ 14) แต่เรายังไม่ได้รับอีเมลจากระบบการทำวีซ่าของ Emirates แค่นั้น ดังนั้นให้รอจนกว่าจะรอไม่ได้ แล้วเค้าจะช่วยหาทางให้

รอไป 3 ชั่วโมง ระหว่างรอเราก็ไปเดินงาน Winter Market ครั้งที่ 7 จนหนึ่งทุ่ม ก็ยังอีเมลวีซ่าของคุณ Juth ก็ยังไม่มา Knot ทำการส่งข้อความไปหาเอเจ้นต์คนเดิมอีกครั้ง เค้าก็ยืนยันว่าให้รอ Knot ลองเอา Reference number ของคุณ Juth เข้าเช็คในเว็บอีกครั้ง ครั้งตอนประมาณ 3 ทุ่มกว่า ๆ ได้คำตอบว่า Dubai Visa ออกแล้ว จะส่งอีเมลให้เร็ว ๆ นี้ และวีซ่าของคุณ Juth อัพเดทในระบบของสายการบินเรียบร้อยแล้ว แต่อีเมลก็ยังไม่มา Knot ส่งข้อความไปถามเอเจ้นต์อีกครั้ง เค้าแนะนำให้ส่งอีเมลไปหา Customer Support ว่าเราเห็นในระบบว่าผลวีซ่าออกแล้ว ขอให้ส่งวีซ่าให้ด่วนเพราะจะต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว

Knot ส่งอีเมลไปตอนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม แต่ก็ใจชื้นที่อย่างน้อยถึงจะยังไม่ได้อีเมลแต่เราก็มีหลักฐานว่า Visa ออกแล้วจริง ๆ น่าจะใช้ขึ้นเครื่องได้ เพราะที่สนามบิน Dubai เจ้าหน้าที่จะไม่ขอดูเอกสารใช้แต่หนังสือเดินทางของเราจะเช็คในระบบ Immigration ของเค้าได้เลย ต้องไปลุ้นกันว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิเจ้าหน้าที่จะให้คุณ Juth ขึ้นเครื่องไหม ถ้าไม่มีสำเนา Visa พิมพ์ไปให้ดู

สุดท้ายได้ e-Visa ก่อนรถมารับ 20 นาที

แต่ในที่สุด เวลา 23.36 น ยี่สิบนาทีก่อนที่รถจะมารับเราไปสนามบิน Customer Support ก็ส่งสำเนา Dubai Visa ของคุณ Juth มาให้ เราก็พิมพ์ออกมาเก็บไว้ รถมารับเราก็ไปสนามบินกันอย่างสบายใจ เช็คอินที่สุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่เช็คอินขอดูสำเนา Visa จริง ๆ ค่ะ ดังนั้น ถ้าได้มาแล้วควรพิมพ์ติดมาด้วยนะคะ ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่บอกว่าอีเมลหรือไฟล์ก็ใช้แสดงแทนกันได้ค่ะ แต่เพื่อความมั่นใจพิมพ์มาไว้ให้อุ่นใจก็ดีค่ะ เพราะถ้าจะไปซื้อ sim card ที่ Dubai ต้องใช้สำเนา Visa ในการลงทะเบียนค่ะ

Visa คุณ Juth ที่ได้มาลงวันที่ออกไว้เป็นวันที่ 14 ธันวาคม เหมือนที่เอเจ้นต์บอกค่ะ หมายความว่า ที่เราได้รับล่าช้าจนต้องเลื่อนไฟล์ทนี่เกิดจากความล่าช้าของเจ้าหน้าที่ดูแลวีซ่าของสายการบินที่ส่งให้เราช้าค่ะ ไม่ใช้เจ้าหน้าที่ของทางราชการค่ะ ดังนั้น หากจะยื่นขอ Dubai Visa ผ่านสายการบิน Knot ขอแนะนำให้เผื่อเวลาไว้สัก 2 สัปดาห์ค่ะ หรือ 15 วันทำการจะดีที่สุด และอย่าลืมว่าเค้าหยุดวันศุกร์และเสาร์นะคะ จะได้นับวันกันไม่พลาด ข้อดีของการยื่นวีซ่าผ่านสายการบิน คือ ค่าบริการถูกกว่าใช้บริการเอเจ้นต์ขอวีซ่าทั่วไปค่ะ แต่เอเจ้นต์ขอวีซ่าทางดูไบค่าบริการก็ไม่แพงมาก ประมาณ 3,000 บาท เอเจ้นต์ในประเทศไทยราคาจะแพงกว่าพอสมควรค่ะ ถ้าอยู่ใกล้สำนักงานของ Emirates ก็สามารถนำเอกสารไปยื่นที่สำนักงานของสายการบินได้เช่นกันค่ะ

Photo by Aleksandar Pasaric from Pexels

คำแนะนำในการขอ Dubai Visa

นอกจากจะเผื่อเวลาแล้วยังควรเลือกเอเจ้นต์ที่การันตีผลและขอสำเนา Visa มาไว้ให้อุ่นใจด้วย และควรเลือกเอเจ้นต์ที่เราสามารถติดต่อปรึกษาได้ตลอดเวลาค่ะ แม้ว่าท้ายที่สุด เราสองคนจะได้ Visa มาทันเวลาขึ้นเครื่องไฟล์ทใหม่ของเรา และเราก็ไปงานทันเวลา แต่ความเครียดที่เกิดขึ้นตลอดสามวันก่อนเดินทางเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดอย่างยิ่ง แต่เมื่อมาถึงงานเราพบว่ามีผู้ร่วมงานหลายคนที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ทันเนื่องจากปัญหาเรื่องวีซ่า ซึ่ง Knot สอบถามผู้ร่วมงานคนอื่น คำตอบที่ได้คือต้นเดือนธันวาคม เป็นช่วงที่ชาวดูไบจะหยุดเพื่อฉลองวันชาติ เลยทำให้การทำงานทุกอย่างล่าช้ากว่าปกติค่ะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าใครจะเดินทางมาเที่ยวหรือมาทำงานที่ดูไบ Knot ขอแนะนำให้เผื่อเวลาไว้จะดีที่สุด และไม่ต้องเตรียมเอกสารอะไรมากค่ะ แต่ตั๋วเครื่องบินไปกลับ สำเนาหนังสือเดินทาง และรูปถ่ายก็ยื่นขอวีซ่าได้แล้วค่ะ หากเค้าต้องการเอกสารอย่างอื่น เค้าจะอีเมลมาขอให้เราส่งเพิ่มเติมไปให้ทีหลัง อย่ารอช้าค่ะ ถ้าไม่อยากเครียดแบบ Knot และคุณ Juth ครั้งนี้ค่ะ

สุดท้ายนี้ อย่าพลาดไปเที่ยวดูไบด้วยกันนะคะ ทริปนี้แม้เวลาจะน้อย แต่ Knot กับคุณ Juth ก็ได้ไปเที่ยว Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน แล้ว Knot จะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ ว่าประสบการณ์ในการขึ้นตึกนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ขอบคุณทุกท่านที่อ่านโพสต์นี้มาจนถึงนี้นะคะ หากมีความคิดเห็นอย่างไร ฝากข้อความถึง Knot ได้นะคะ และอย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กด Subscribe เพจและ IG @TripsinMyMemory และ YouTube Chanel: Trips in My Memory ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

Cover Photo by Nextvoyage from Pexels