ขอคั่นทริปอังกฤษสักนิดนะคะ Knot อยากบอกเล่าประสบการณ์ใหม่ ที่เดินทางไม่ไกลมาก แต่สามารถสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้มากมาย เมื่อวันพฤหัสที่ 28 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา Knot มีโอกาสได้รับเชิญ (แอบอิง Juth.net) ไปงาน “A Great Day” ซึ่งเป็นงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ The Great Room ซึ่งเป็น the first Asia hospitality inspired Co-working space แห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ ชั้น 25-26 Gaysorn Tower นั่นเอง
The Great Room
Knot ไปถึง The Great Room เวลาประมาณ 15.00 น. ลงทะเบียนเข้างานเรียบร้อย รับของที่ระลึกเป็นสมุดโน๊ตดีไซน์สวยงามมากค่ะ อารมณ์ตอนเดินออกจากลิฟต์ เหมือนเราเดินเข้าไปในโรงแรมหรูระดับหกดาวค่ะ มีสื่อต่างๆ เดินถ่ายรูปอยู่หลายคนเลยทีเดียว ส่วนแรกที่เข้าไปจะเป็นส่วนของ the Drawing Room หรือ Lounge จัดเป็นโซฟา ขนาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ให้สามารถนั่งสนทนากันได้หลากหลายจำนวนคน นอกจากนี้ บริเวณกลางห้องยังดีไซน์เป็น Island ขนาดใหญ่ มีเก้าอี้สูงให้เลือกนั่งได้ แต่วันนี้ใช้เป็นสถานที่จัดวางขนม เสิร์ฟ เป็น High tea จากร้าน 1823 (ร้านเปิดบริการ Tea room ที่ Gaysorn Village ชั้น 1 ค่ะ)
แน่นอน Knot ไม่พลาด Scone และชาหอมๆ เลือกชิม Sesame Scone พร้อม Clotted cream และ homemade strawberry jam ค่ะ ทานคู่กับชาดำค่ะ พนักงานบอกว่าชาของทางร้านแนะนำให้ ดื่มแบบไม่ผสมอะไรนะคะ เพราะชาหอมมาก และก็จริงตามนั้นค่ะ ขนมอร่อยชารสเลิศ
Knot เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง ชมวิวสนามกีฬา วิวเมืองฝั่ง centralworld มองตรงไปยังเห็นความสวยงามของตึก central embassy และ Noble Ploenchit อีกด้วย
เมื่อเราเก็บรูปกันได้สักพัก คุณ Jaelle Ang, Co-founder และ CEO ของ The Great room ก็มาพาเดินชมสถานที่พร้อมบรรยายที่มาของการออกแบบต่างๆ ทั่วทั้งชั้น 26 ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้ว The Great room Gaysorn Tower มีสองชั้นคือชั้น 25 และ 26 แต่วันนี้เรามีโอกาสได้ชมชั้นที่ 26 เท่านั้น เนื่องจากการออกแบบคล้ายกันนั่นเอง
The Great Room ต่างจาก Co-working space อื่นๆ ตรงที่การออกแบบ ซึ่งคุณ Jaelle เลือกใช้บริการของ Michael Fiebrich Design นักออกแบบผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบโรงแรมชื่อดังอย่าง Four Seasons มาออกแบบ The Great Room แห่งนี้
เดินจาก Drawing Room ไปทางขวา (ฝั่งเพลินจิต) ก็จะมี Board room ซึ่งเป็นห้องประชุมขนาดความจุ 14 ที่นั่ง สามารถเสริมเก้าอี้สูงได้อีกเล็กน้อย เดินผ่านไปจะเห็นมีล็อกเกอร์ให้เก็บของ มีห้องประชุมเล็กขนาด 4-6 คน เดินไปเรื่อยๆ จะเห็นว่ามีชุดรับแขก หรือโซฟาจัดวางไว้ ให้สามารถเลือกนั่งคุยกันได้ในบรรยากาศสบายๆ ไม่เคร่งเครียดเหมือนสำนักงานปกติ
การจัดไฟ The Great Room เลือกใช้ไฟสีเหลือง หรือ warm white ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศสบายๆ เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่า Start-up ที่มาใช้บริการที่นี่ นอกจากนี้ การออกแบบตกแต่งเป็นไปเพื่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนมากหน้าหลายตา ที่ต่างก็มาทำงานของตนที่นี่ เพื่อให้ก่อเกิดความสัมพันธ์ และกลายเป็น community ในที่สุด
คุณ Joelle ได้เล่าให้ฟังว่า “The Great Room” เป็นห้องสันทนาการของคนทั้งบ้าน เป็นห้องที่คนในบ้านจะมาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เป็นหัวใจของบ้านนั่นเอง ถ้าใครเคยอ่านหรือดูหนังเรื่อง Harry Potter ทุกภาคจะมีฉากที่เหล่าพ่อมดแม่มดทั้งหลายมารวมตัวกันทำกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่คัดเลือกบ้านที่จะอยู่ ไปจนถึงรับประทานอาหาร ให้คะแนน ประกาศผลต่างๆ ซึ่งจัดที่ “The Great Hall” นั่นเอง
นอกจากห้องประชุมเล็กใหญ่ขนาดต่างๆ แล้ว The Great Room ยังมี Dedicated work space ซึ่งจัดเป็นห้องมีโต๊ะทำงาน มีตู้เก็บของ สำหรับบริษัทที่เป็นสมาชิกอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป นอกจากนี้ ก็จะมี Phone Booth สำหรับการหลบเข้าไปคุยโทรศัพท์เงียบๆ คนเดียว มี nursing room มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำไว้ให้บริการลูกค้าอีกด้วย และที่สำคัญคือ ทุกห้องมองเห็นวิวอันสวยงามของท้องฟ้ากรุงเทพมหานครแบบ 360 องศา ได้รับ Natural Day Light อย่างทั่วถึงอีกด้วย มีโต๊ะทำงานที่เรียกว่า Hot Desk สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มาใช้บริการรายวันด้วย ทุกโต๊ะ ทุกมุม แค่มานั่งชมวิว ชิลกับเพื่อนร่วมงาน ก็คุ้มแล้วค่ะ
The Great Room เปิดให้บริการ 9.00 น – 18.00 น ทุกวัน สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับสมาชิกสามารถเข้าใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ หากใครสนใจสัมผัสบรรยากาศการทำงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เรียกว่าเป็น Work and Play อย่างเต็มรูปแบบ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://thegreatroomoffices.com/bangkok-gaysorn-tower
Knot or Dr. Suthasinee Susiva, is a lecturer & business woman, who falls in love with travelling in Thailand and around the World. Her ambitious is to travel around the world with her love.