24 พฤศจิกายน 2563 จะเป็นวันสุดท้ายของการแสดงผลงานสุดยอดศิลปะประชานิยมของ Andy Warhol: Pop Art ที่ Rivercity Bangkok แล้วนะคะ สำหรับคนที่ชื่นชอบศิลปะแบบประชานิยมอย่าพลาดหาเวลาไปชมกันได้ค่ะ Knot และคุณ Juth เราสองคนไปชมงานนิทรรศการนี้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2563 หลังจากนิทรรศการเปิดให้ชมกันไม่นาน ซึ่ง Knot ได้ทำคลิปพาแฟน ๆ Trips in My Memery บน YouTube ไปชมกันตั้งแต่ตอนนั้น โพสต์นี้ Knot จึงขอเขียนเพื่อบอกเล่าประสบการณ์และเรื่องราวความทรงจำดี ๆ ที่ Knot ได้เรียนรู้จากนิทรรศการนี้ให้ทุกคนอ่านกันนะคะ
มาทำความรู้จักกับเจ้าพ่อวงการ Pop Art – Andy Warhol กัน
Andy Warhol หรือ แอนดี้ วอร์ฮอล์ เป็นศิลปินชาวอเมริกัน มีชื่อจริงว่า “แอนดรูว์ วาร์โฮลา จูเนียร์” เป็นผู้ที่ทำให้โลกได้รู้จักกับศิลปะแบบประชานิยม แอนดี้เริ่มต้นเส้นทางสายนี้ของเค้าจากการวาด Illustrator ลงในนิตยสารต่าง ๆ Andy Warhol เป็นผู้ที่สร้างสรรค์งานศิลปะจากสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในยุคนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Superstars, Singers, กระป๋องซุป รองเท้า และสิ่งของรอบตัวเรามากมาย งานของแอนดี้มีความหลากหลายมาก รูปเดียวกันอาจพิมพ์อยู่บนวัสดุต่าง ๆ กัน นอกจากนี้ แอนดี้ยังเป็นนักเขียน เป็นโปรดิวเซอร์ เป็นบรรณาธิการนิตยสาร และอื่น ๆ อีกมากมาย เค้าใช้ชีวิตแฮงก์เอ้าต์กับคนดังแห่งยุคอยู่เสมอ ซึ่งเป็นนายแบบและนางแบบให้งานของเค้า ภายในงานจัดแสดงผลงานของ Andy ไว้ได้อย่างน่าสนใจมากค่ะ เรียกได้ว่าเป็น Private Collection ที่สมบูรณ์มาก ๆ ค่ะ ถ้าอยากจะชมผลงานของเค้าที่ครบขนาดนี้ น่าจะต้องไปที่ Andy Warhol Museum ที่อเมริกาเท่านั้นค่ะ
นอกจากนี้ แอนดี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงานศิลปะแบบ Pop Art แล้ว งานของเขาสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจในเรื่อง คนดัง วงการบันเทิง และการโฆษณาซึ่งกำลังเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาในช่วงยุค 60 งานของแอนดี้มีหลายประเภทตั้งแต่งานสื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์ ไปจนถึง ภาพเขียน ภาพจิตรกรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย ภาพพิมพ์สกรีน ประติมากรรม ภาพยนตร์ และดนตรี นอกจากนี้ เขายังเป็นศิลปินรุ่นแรก ๆ ที่นำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะอีกด้วย
นอกจากนี้ แอนดียังเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารและเขียนหนังสืออีกหลายเล่ม เช่น The Philosophy of Andy Warhol และ Popism: The Warhol Sixties แม้ในช่วยบั้นปลายชีวิต แอนดี้จะไม่ค่อยทำงานศิลปะออกมามากนัก แต่เขาก็ยังคงมีงานในด้านอื่น ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น งานโฆษณา หรือ งานแสดงที่เขาได้รับเชิญจากภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Love Boat และนั้นยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จของเขา หลังจากการแสดงงานครั้งสุดท้ายในยุโรป เมื่อกลับมานิวยอร์กได้ระยะหนึ่ง แอนดี้ก็เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1987 หลังเข้ารับการผ่าตัดรักษาตัว โดยมีอายุรวม 58 ปี
Pop Art คืออะไร
ป็อป อาร์ต (Pop Art) หรือศิลปะประชานิยม มาจากภาษาอังกฤษว่า “Popular Art” ซึ่งแปลว่า “ศิลปะที่เป็นที่นิยม” การเคลื่อนไหวของป๊อปอาร์ตในอเมริกาและอังกฤษเกิดขึ้นใน ค.ศ.1950 โดยนำแรงบันดาลใจมาจากแนวความคิดของบริโภคนิยมในสังคม และความนิยมในสังคมมาสร้างเป็นงานศิลปะ เช่น การ์ตูน รูปโฆษณาสินค้า รูปถ่ายดาราภาพยนตร์ที่ประชาชนคลั่งไคล้ ตัวอักษรหรือหนังสือขำขัน ป้ายโฆษณาตามทางหลวง เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ ถ้วยพลาสติค กระป๋องเบียร์ กระป๋องโค้ก ไอศกรีมซันเดย์ ฮอทด็อก และแฮมเบอร์เกอร์
ป็อปอาร์ต เป็นศิลปะที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ศิลปินในกลุ่มนี้มีความเชื่อว่าศิลปะที่สร้างขึ้นจากสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกของประสบการณ์ทั้งหมดของศิลปินในช่วงเวลาหนึ่งและสถานที่แห่งหนึ่งเท่านั้น รูปแบบของศิลปะจะขึ้นอยู่กับความสนใจของศิลปินแต่ละคนที่ได้พบเห็นสิ่งเหล่านั้นอยู่ทุกวัน ซึ่งทำให้อาจมีการนำสิ่งของเครื่องใช้เดิมมาเป็นต้นแบบในการสร้างงานศิลปะชิ้นอื่น ๆ ได้ด้วยค่ะ กล่างคือ ศิลปินในกลุ่มนี้ มักจะสร้างสรรค์งานศิลป์เพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ มากกว่าที่จะสร้าง Masterpiece เหมือนศิลปินในกลุ่มอื่น
ผลงานเด่นของ Andy Warhol
- ภาพมาริลีน มอนโร (Marilyn Monroe) โดย แอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) ภาพมาริลีน มอนโร (Marilyn Monroe) พิมพ์โดยแอนดี้ วอร์ฮอล หลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพนักเขียนภาพประกอบเรื่อง เขากลับกลายเป็นจิตรกร ผู้สร้างภาพยนตร์ และนักประพันธ์ ภาพ “มาริลีน มอนโร” เป็นภาพใบหน้าของมาริลีน มอนโร ดาราภาพยนตร์ผู้ได้รับสมญานามว่า Sex Symbol ซึ่งบั้นปลายชีวิตของเธอเธอได้ฆ่าตัวตาย แอนดี้ วอร์ฮอลชื่นชอบใบหน้าของ มาริลีน มอนโร เป็นอย่างมาก โดยได้พิมพ์ใบหน้าของเธอหลายภาพโดยแต่ละหน้าให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน การจัดองค์ประกอบศิลป์ของเขาเป็นไปอย่างง่ายๆ แต่เด่นสะดุดตา บางภาพมีจุดเด่นอยู่กลางภาพ บางครั้งอาจจัดภาพโดยนำรูปใบหน้าซึ่งเหมือน ๆ กันวางเรียงเป็นแถว ราวกับวางภาพนชั้นวางของ ทำให้เกิดความซ้ำกันตามแบบที่แอนดี้ วอร์ฮอลชอบ เขากล่าวว่า “ถ้าอยากรู้จักฉันให้ดูผลงานจิตรกรรมของฉันเพราะฉันอยู่ในงานจิตรกรรมนั้น”
- ภาพวันที่ 5 เมษายน 2008 (April 5, 2008) โดย แอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol)
- ภาพ “Campbell’s Soup Cans” หรือ กระป๋องซุปแคมป์เบลส์ (1964) ที่มีจำนวนถึง 32 ชิ้นด้วยเทคนิคภาพพิมพ์ ผลงานชิ้นนี้ ได้เเรงบันดาลใจมาจากการที่ แอนดี้ วอร์ฮอล ชอบทานซุปกระป๋องมากเลยได้ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบงานศิลปะเป็นผลงานที่โด่งดัง เเละเป็นสีน้ำมันบนผ้าใบ ภาพนี้จึงเป็นกระป๋อง SOUP ที่เเพงที่สุดในโลก เมื่อมีการซื้อขายผลงานชิ้นนี้ที่มีมูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐหรือเทียบเงินไทยประมาณ 634,300,000 บาท
นอกจากนี้ ภายในงานนิทรรศการยังมีผลงานมากมายของ Andy Warhol จัดแสดงไว้ให้ชมกันค่ะ
หลังจากที่เราได้ชมผลงานแนว Pop Art ของ Andy Warhol แล้ว เราก็ยังได้เดินไปซื้อของที่ระลึกซึ่งครั้งนี้ เราได้เสื้อยืด หน้ากากผ้า สมุด แก้ว และอื่น ๆ อีกมากมายทั้งจากผลงานของ Andy Warhol และของ Van Gogh ซึ่งตอนที่เรามาชมผลงานของแวนโก๊ะครั้งที่แล้ว เราไม่ได้ซื้อของที่ระลึกเหล่านี้ไปค่ะ นิทรรศการของแวนโก๊ะห์ยังมีจนถึงสิ้นปีนะคะ ถ้ามีเวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ไปชมผลงานกันได้ค่ะ
สำหรับโพสต์นี้ Knot ต้องขอขอบคุณ คุณนิ้ง จาก River City Bangkok นะคะ ที่สละเวลามาพา Knot และคุณ Juth ชมงานนิทรรศการศิลปะ Andy Warhol: Pop Art พร้อมให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับแอนดี้ วอร์ฮอล์และชิ้นงานต่าง ๆ มากมายให้เราได้นำมาแบ่งปันให้ทุกคนชมกันค่ะ งานนี้เป็นการจัดแสดงผลงานของ Andy Warhol ศิลปิน Pop Art ระดับโลก โดยผลงานที่นำมาแสดงนี้มาจาก Private Collection ของคุณ Gianfranco Rosini นะคะ ไม่ใช่ชิ้นงานที่หาดูได้ตามพิพิธภัณฑ์ทั่วไป ซึ่งหลายคนอาจเคยได้ชมผลงานของ Andy จากสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ อาจจะลักษณะที่คล้ายคลึงกับงานที่แสดงในนิทรรศการครั้งนี้ แต่อาจจะไม่ใช่ชิ้นเดียวกันค่ะ เพราะงานศิลปะของ Andy มีการผลิตแบบ Factory คือมีการทำซ้ำ บนวัสดุอื่นๆ หรือใช้สีที่ต่างออกไปค่ะ จึงมีงานคล้ายคลึงกันหลายชิ้นงาน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจำลอง The Could ลูกโป่งที่จำลองก้อนเมฆซึ่งเคยจัดแสดงในงานนิทรรศการของ Andy เมื่อนานมาแล้วด้วยค่ะ ยังมีการจัดมุมต่าง ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปสวยๆ ออกมาแบบ Pop Art สีสันสดใส contrast เยอะๆ อีกด้วยค่ะ ภาพวาด หรือ paintings ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งต่างๆ รอบตัวเป็นงานที่โด่งดังของ Andy ในช่วงปลายของชีวิตอีกด้วยใครชอบงานศิลปะสไตล์ Pop Arts ห้ามพลาดงานนี้นะคะ งานนี้จัดระหว่างวันที่ 12 สค 2020 – 24 พย 2020 ค่ะ สามารถซื้อบัตรได้ที่ Ticketmelon หรือที่หน้างานค่ะ บัตรผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก/สว/นักศึกษา 300 บาท Program book เล่มละ 500 บาท ค่ะตามไปชมงานกันได้เลยค่ะ อย่าลืมกดไลค์ แชร์ ติดตาม และกระดิ่งแจ้งเตือนกันด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดคลิป/โพสต์ใหม่ๆ ของ Trips in My Memory ค่ะ