จาก Bath สู่ Bicester Village

วันนี้เราตื่นกันสายนิดนึง เนื่องจากเหนื่อยจากการท่องเที่ยวที่ Cotswolds เมื่อวานทั้งวัน แล้วก็นอนเอาแรงไว้เพื่อตะลุยช้อปปิ้งที่ Bicester Village – Outlet ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ พวกเรารับประทานอาหารเช้าที่ Henrietta House ที่พักของเรา มื้อสุดท้ายก่อนอำลาเมืองบาธสำหรับทริปนี้ อาหารก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ลืมเล่าไปนิดนึงคือที่นี่ อาหารเช้าจะเป็นเซ็ตเมนูให้เลือกสั่งได้ และมีบุฟเฟ่ต์เป็นพวกซีเรียล ผลไม้ ขนมปัง น้ำผลไม้ ให้เราเลือกรับประทานได้ และทุกวันจะมีน้ำผักผลไม้คั้นพิเศษประจำวันที่จะไม่เหมือนกัน ให้เราได้เลือกลิ้มลองค่ะ ทริปหน้าถ้ามาบาธอีกก็คงจะพักที่นี่ค่ะ ถ้าห้องไม่เต็มนะคะ

รับประทานเสร็จ Knot ก็ไปเก็บของ เช็คเอ้าท์ก็ประมาณสิบโมงกว่าๆ ขนของขึ้นรถ จะบอกว่ารถของเราใหญ่อยู่นะคะ นั่งสี่สาว พอใส่กระเป๋า และของที่ช้อปปิ้งกันรอบแรก ก็จะเต็มรถแล้วค่ะ

เรามีแผนที่จะตะลุยช้อปปิ้งที่ Bicester Village ซึ่งเป็น Outlet ที่มีร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ ให้เราเลือกมากมาย เราจะอยู่ที่นี่ 2 วันค่ะ ค้างคืนที่ Best Western แถวๆ Bicester ด้วยค่ะ ระยะเวลาเดินทางจากบาธถึง Bicester Village ใช้เวลาประมาณ 1 ชม 45 นาที มีสามเส้นทางให้เราเลือก แต่ Knot เลือกขับบน Motorway เส้น M4 ผ่าน Swindon เราไปถึง Bicester Village ก็เที่ยงกว่าๆ ค่ะ

Route Map
แผนที่เส้นทางจาก Bath ไป Bicester Village

ตอนแรกคิดว่าจะแวะเที่ยว Oxford กันสักหน่อย แต่ด้วยความกลัวจะเสียเวลา คือทริปนี้เน้นชิลและช้อปค่ะ พวกเราเลยตัดสินใจข้ามโรงอาหารของ Hogsward ไปหมู่บ้านจุดหมายปลายทางของเราเลยค่ะ ต้องบอกว่า สองวันนี้ Knot สนุกสนานกับการช้อปปิ้งมาก จนลืมถ่ายรูปกันไปเลยค่ะ รูปก็จะน้อยนิดนึงนะคะ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าค่ะ

Bicester Village – one of the largest outlet in the UK

เมื่อมาถึงเราก็หาที่จอดรถ เนื่องจากเรามาถึงเป็นวันธรรมดาและค่อนข้างเร็ว จึงหาที่จอดไม่ยากนัก Knot เลือกจอดบริเวณที่จอดรถด้านหน้าของ Village ค่ะ ถ้าบริเวณนี้เต็ม เราจะต้องเข้าไปจอดที่อาคารจอดรถด้านหลังซึ่งเดินกันเหนื่อยเลยค่ะ วนประมาณ 10 นาทีก็โชคดีได้ที่จอดรถ ได้ที่จอดแถว Pret A Manger ร้านอาหารแบบ Grab foods ค่ะ คือ พวกแซนวิช ข้าวกล่อง เครื่องดื่ม ของหวาน และผลไม้ให้เลือกซื้อ แล้วมีที่นั่งให้รับประทานได้ สำหรับคนเร่งรีบ และไม่อยากเสียเวลาค่ะ อาหารจะไม่ใช่พวก Junk Foods ค่ะ Knot พาพี่ๆ น้องๆ เดินผ่านร้าน Pret A Manger เข้าไปทะลุด้านหน้าร้านค่ะ แล้วเราก็เริ่มต้นการช้อปปิ้งกันด้วยการเดินดูว่ามีร้านอะไรบ้าง

Bicester Outlet

ก่อนจะเริ่มช้อปปิ้งสิ่งที่ควรต้องทำคือไปที่ Visitor Centre เพื่อรับบัตรลดสำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ แต่การจะได้มานั้นต้องมี Voucher จากโรงแรมที่พักนะคะ หากไม่มี เดินไปที่นี่แล้วลองบอกว่า ลืมเอามา พนักงานก็อาจจะให้หรือไม่ให้ก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีเราจะได้บัตรลดราคานี้มาซึ่งจะทำให้เราได้ส่วนลดในการซื้อสินค้าตามร้านต่างๆ อีก 10% แต่ละร้านจะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกันค่ะ Longchamp ต้องซื้อครบ 150 ปอนด์ จึงจะได้ลด 10% Bally, Valentino ต้องซื้อ 300 ปอนด์ Tory Burch ถ้าจะไม่ผิดจะต้องซื้อ 200 ปอนด์ขึ้นไป บางร้านเช่น Cath Kidston, Under Armour ไม่มีขั้นต่ำค่ะ ลดเพิ่มจากราคา Outlet นะคะ สินค้าก็จะยิ่งน่าซื้อมากขิ้นไปอีกนิดนึง

ก่อนจะได้มาซึ่งบัตรลด เราต้องกรอกเอกสารเพื่อลงทะเบียนก่อนนะคะ พนักงานยื่นแบบฟอร์มให้เรากรอก แล้วเค้าก็ส่งบัตรลดให้เรา พร้อมแผนที่ Village ค่ะ ใหญ่มากค่ะ แนะนำว่าหากมาเป็นครั้งแรกและมีเวลาควรศึกษาแผนที่ และวางแผนการเดินช้อปปิ้งมาก่อนจะเป็นการประหยัดเวลามากค่ะ สามารถคลิกดู แผนที่ ได้นะคะ

Bicester Outlet
Knot at Bicester Outlet with the discount voucher

Knot มาที่นี่หลายครั้งมาก สมัยเรียนนะคะ ร้านรวงต่างๆ ส่วนใหญ่จะเหมือนเดิม แต่มี Food Trucks เพิ่มเติมขึ้นมา และส่วนใหญ่เป็นอาหารเอเซียค่ะ มีร้านอาหารเอเซียสไตล์ Grab Foods แต่เป็นอาหารสุขภาพ พวกก๋วยเตี๋ยวและขาวสไตล์ญี่ปุ่น แต่จะมีก๋วยเตี๋ยวต้มยำด้วยค่ะ ร้านชื่อ ITSU เรารับประทานร้านนี้เป็นอาหารเย็นของวันแรกกันค่ะ อาจจะสงสัยว่าอาหารกลางวันหายไปไหน ไม่หายค่ะ พวกเรากินขนม ผลไม้กันมาในรถเยอะ แล้วก็ตื่นเต้นกับการเดินดูร้านต่างๆ ไม่ได้ดูเวลา หรือสังเกตความหิวของเราเลยค่ะ ประมาณบ่ายสอง Knot เริ่มหิว และเล็งไว้แล้วว่าจะกินเครปค่ะ ราคาสูงเอาเรื่องอยู่ค่ะ เริ่มต้นที่ 2.99 ปอนด์ ไปจนถึง 6.99 ปอนด์ค่ะ พวกเราเลือกกินสองอันสี่คนแบ่งกันค่ะ อันนึงใหญ่มากมาย ขอบอกว่าสี่คนสองอันกินกันไม่หมดนะคะ

Crêperie Angelie
Crêpe
Crêpe

เราเริ่มเดินจากซ้ายมือของร้าน Pret A Manger ไปแวะ Balenciaga เป็นร้านเล็กๆ ของมีไม่เยอะค่ะ กระเป๋าจะเป็นรุ่นเก่าและสีที่เป็น Season หรือที่เรียกกันว่า Limited Edition ค่ะ ถือผลิตออกมาเฉพาะสำหรับฤดูกาลนั้นๆ ขายไม่หมดก็มาอยู่ที่ Outlet ราคาที่นี่จะถูกลงอย่างน้อย 30% ค่ะ บางใบหรือบางชิ้นราคาถูกกว่าร้านในเมืองถึง 70% ค่ะ เรียกว่าถ้ามาวันที่ของเพิ่งเข้า หรือเพิ่งลงของ เราจะโชคดีมาก ช้อปกันฟินไปเลยค่ะ ร้านต่อไปที่เราเดินเข้าไปดูคือ Longchamp

Balenciaga

โชคร้ายคือปิดกันหลายร้าน

พอได้บัตรลดเราก็เริ่มต้นช้อปปิ้งค่ะ ร้านต่อไปที่เราเดินเข้าคือ Prada ค่ะ น้องอยากได้เป้ Knot เล็งรองเท้าเด็กผู้ชายไว้ค่ะ จะถอยไปฝากหลายชายคนโปรด คู่ไหนก็ไม่มีไซส์ สุดท้ายได้คู่สีดำประหนึ่งรองเท้านักเรียนกันเลยค่ะ แต่ก็ดูดี ใส่ออกงาน ใส่เที่ยว ใส่อยู่บ้านได้สบายๆ สนนราคาถ้าไม่ลดขนาดนี้รับรองว่าไม่ซื้อแน่นอนค่ะ คู่นี้หลักพันค่ะ ถูกกว่ารองเท้า Adidas บางคู่ด้วยค่ะ

Prada's Sneakers
รองเท้าคุณชายกวินทร์

จากป้าดา เราก็เดินไปต่อที่ YSL ต่อด้วย Bottega Veneta ไปได้กระเป๋าสตางค์ผู้ชายตามออเดอร์ฝากซื้อของลูกศิษย์ค่ะ สีแดงอิฐสวยมาก สนนราคาถูกกว่าช้อป 30% จัดไปค่ะ ได้ Tax refund อีก 14% รออะไรล่ะคะ

Bottega Veneta
กระเป๋าสตางค์ Bottega Veneta

จาก Bottega Veneta เราก็เดินไปต่อที่ Burberry ค่ะ จริงๆ Knot ตั้งใจจะซื้อ Coat ใหม่สักตัว แน่นอน หนึ่งในตัวเลือกคือ Burberry ตามประสาเด็กอังกฤษ ที่ Burberry Trent Coat เป็น Must have ค่ะ คือมีแล้ว 1 ตัวนะคะ แต่อยากได้โค้ทสำหรับหน้าหนาวแบบติดลบอีกสักตัว เพราะมีแผนจะไปเล่นสกีที่เกาหลี และดูแสงเหนือฟินแลนด์ต่อ แต่ก็หาซื้อไม่ได้ค่ะ สุดท้าย ไปทั้งสองทริปด้วย Ultra light down ของ Uniqlo ค่ะ

Longchamp

แวะกินเครปที่หน้าร้าน Longchamp แล้วพี่ๆ น้องๆ ก็เข้าไปเลือกซื้อกระเป๋าลองชอมกันอย่างเมามัน เค้าไม่ได้ซื้อเกินคนละ 10 ใบนะคะ เรามากันสี่คน ได้ 40 ใบ ใครจะบ้าซื้อขนาดนั้นเนอะ ถ้าไม่ใช่แม่ค้า เอาจริงๆ คือเราสี่คนนี่แหละค่ะ ไม่ใช่แม่ค้า แต่ซื้อมาแจก ญาติพี่น้อง และพนักงานที่ร้านค่ะ เนื่องจากเราหนีเที่ยวทริปนี้ยาว เด็กๆ ต้องทำงานแทนพวกเราค่ะ เลยต้องให้รางวัลกันนิดนึง สนนราคาของลองชอมที่นี่ บวกบัตรลด 20% แล้ว หัก Tax refund ก็เหลือ พันนิดๆ บาทนะคะ ไม่ใช่ปอนด์ ก็พอแจกได้นะคะ แต่สีจะเป็นคอลเลคชันเก่าค่ะ เราไปช่วง Autumn สีก็จะเป็นของ Summer สีแดง สีชมพู สีเขียวสดๆ ค่ะ

Cath Kidston

จากลองชอม เราไปต่อที่ Cath Kidston สวรรค์ของนักช้อปอย่างเรา เมื่อมาอังกฤษ เราก็ต้องจัดของฝากจากอังกฤษให้ทุกคน และที่เราเจอคือ ร้าน Cath Kidston ลดราคาเพิ่มจากปกติอีกด้วยค่ะ ประมาณ 30%-70% ค่ะ เริ่มต้นที่ 2 ปอนด์ค่ะ (ซองใสใส่พลาสปอร์ต ใส่เหรียญ ฯลฯ) กระเป๋าสตางค์บางลายเหลือ 10 ปอนด์ ปกติ 40 ปอนด์ ชุดนอนจาก 70 ปอนด์ เหลือ 20 ปอนด์ ผ้าเช็ดตัวขนาด Bath Towel ใหญ่มาก เหลือ 14.99 ปอนด์ แถมได้ Tax refund อีก 14% ค่ะ ซื้อขั้นต่ำ 30 ปอนด์นะคะ จะไม่ซื้อได้อย่างไร เงินในกระเป๋ามีเท่าไหร่ เพื่อนมีกี่คน จัด Cath Kidston ไปฝากกันค่ะ

Gucci

ฟ้าเริ่มมืด อากาศเริ่มเย็นค่ะ เนื่องจากเป็นฤดูใบไม้ร่วง ฟ้าจะเริ่มมืดประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ เราก็แวะกินข้าวเย็นที่ ITSU แล้วก็เตินต่อไปจดสุด Village จุดหมายคือ Gucci และ Coach ค่ะ แฟนเที่ยวอังกฤษ อาจจะสงสัยว่าจะซื้อ Coach ที่นี่ทำไม เพราะราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับอเมริกา เอาจริงๆ ก็แพงกว่าเยอะค่ะ แต่มีคนฝากซื้อมาก็ต้องหาให้เค้าเนอะ เข้าไปก็ไม่ได้อะไรกลับออกมาค่ะ แล้วเราก็เข้า GUCCI เป็นช้อปที่ไม่สุดท้าย เพื่อไปตามหารองเท้าค่ะ น้องสาวได้มาหนึ่งคู่ ชั้นวางรองเท้าและสต็อกของเค้าออกแบบมาดีมากทำให้พนักงานหาสินค้าได้สะดวกค่ะ คือดึงชั้นออกมาสต็อกอยู่ด้านหลัง แล้วดันเก็บเข้าไปได้ค่ะ

ครั้งนี้เดือนสิงหาคม 61 ร้าน Gucci ย้ายร้านมาอยู่แทน Ralph lauren ในโซนเดิมนะคะ Knot ไม่ได้เข้าไปดูเพราะคิวยาวมาก ประหนึ่งแจกฟรีกันเลยค่ะ หากสังเกตในรูปส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนค่ะ ครั้งนี้ Knot ไม่ค่อยได้ยินเสียงภาษาไทยค่ะ น่าจะเป็นเพราะหมดวันหยุดยาวของเราแล้วค่ะ

Gucci
ชั้นวางรองเท้าของ Gucci

ร้านค้าที่นี่จะปิดเวลาประมาณ 6 โมงเย็นถึงหนึ่งทุ่มค่ะ ตอนเราเข้าไปที่ Gucci ก็จะหกโมงเย็นแล้วค่ะ ออกมาพวกเราก็เลยเดินย้อนกลับไปขึ้นรถ คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยมาต่อค่ะ แต่ขณะเดินกลับก็ผ่านร้าน Bally พี่คนหนึ่งขอแวะดู จะซื้อกระเป๋าฝากแฟน เราก็เข้าไปดูค่ะ พนักงานบริการดีมาก ขายสุดฤทธิ์ค่ะ แถมบอกด้วยว่าถ้าซื้อสองชิ้นจะได้ลดเพิ่มอีก 10% คือ ราคาลดแล้ว ใช้บัตรได้อีก 20% เป็น 20%+10% ราคาแบบไม่ถึงหมื่นอ้ะ สำหรับ Messenger back ของผู้ชาย Knot ได้กระเป๋ากุญแจมาฝาก Juth 1 อันในงบไม่เกิน 3,000 บาท แต่เป็นหนังแท้ สวยงามมาก

ก่อนขึ้นรถ เรายังได้แวะที่ Radley สาวกอังกฤษต้องรู้จัก หมาน้อย Radley แบรนด์นี้ กระเป๋าคุณภาพดีราคาย่อมเยาว์ ถ้าซื้อที่อังกฤษนะคะ มาเจอราคาที่ช้อปบ้านเรา อกจะแตกตาย รอลดราคาอย่างเดียวค่ะ Knot ได้กระเป๋าอเนกประสงค์ เป็นกระเป๋าถือได้ เป็นเป้ได้ สีดำ สวยงามน่ารัก ในราคา 18 ปอนด์ ถูกเหลือเชื่อ มาฝากคุณแม่ค่ะ เจ้าคุณแม่สั่งซื้อเป้ค่ะ ไม่เอา Longchamp เพราะมีแล้ว

Radley - The doggie Bag
Rucksack x Hand back

จะขึ้นรถแล้วเดินผ่านร้าน Loewe เลยเข้าไปดูกระเป๋ารุ่น Puzzle Multicolour สวยมาก แต่ราคาไม่ไหวค่ะ ขอกลับไปนอนคิดก่อนละกันค่ะ พนักงานที่ร้านนี้น่ารัก ดูแลดีมาก แต่ราคาแพงอ่ะนะ ตัดสินใจยากนิดนึง พนักงานบอกว่าราคาที่ลดพิเศษเนี่ย คือลดอีก 20% นะคะ เฉพาะวันนี้กับพรุ่งนี้นะคะ  เพราะจะปิดร้าน เราก็ตกใจ เศรษฐกินไม่ดีถึงขนาดต้องปิดร้านใน Outlet กันเลยเหรอ เพราะตอนเราเดินวันนี้ เราก็เห็นว่าหลายร้านปิดให้บริการ เช่น Tod’s, Ralph Lauren ฯลฯ บางร้านปิดตั้งแต่หกโมงเย็น ตอนแรก Knot ยังคิดว่า เราโชคร้ายเนอะที่ร้านผิดเยอะจัง Knot เลยถามพนักงานว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกว่า พรุ่งนี้จะมีงาน Grand opening โซนใหม่ของ Village ค่ะ เรื่องกลับกลายเป็น พวกเราโชคดีเพราะเราจะค้างที่โรงแรมแถวนี้แล้วจะมาอีกรอบพรุ่งนี้ เย้ๆ

So, Good night Bicester Village and see you tomorrow

ที่พักที่ Bicester

Knot เลือกพักที่ Best Western ค่ะ ที่พักอยู่ห่างจาก Bicester Village ประมาณ 5 นาที แต่ตอนเราขับรถออกจาก หมู่บ้าน เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้วค่ะ ถนนมืดมาก ไม่มีไฟ และไม่มีรถวิ่งเลยค่ะ Google map ช่วยเราได้จริงๆ ค่ะ พาเราไปถึงโรงแรม Knot ก็เข้าไปเช็คอิน มีอาการหิวเล็กน้อย ก็ควักเอาผลไม้และ Ben’s cookies เสบียงที่ตุนมาจากบาธมากินค่ะ

โรงแรมค่อนข้างเก่านะคะ สะอาดพอสมควร เรียกว่านอนได้ค่ะ ห้องใหญ่ แต่แขกน่าจะเข้าพักไม่มาก เลยมีกลิ่นอับเล็กน้อย คืนเดียว พวกเราเตรียมพร้อมที่จะแยกกระเป๋าสำหรับ 1 คืนมาไว้ด้วยค่ะ จะได้ไม่ต้องยกกระเป๋าที่มีถุงช้อปปิ้งของเรากองทับมหาศาลค่ะ

โชคดีกว่าได้เดินพรมแดงงานเปิดร้านในโซนใหม่ของ Bicester Outlet

เก้านาฬิกาเป็นเวลาที่พวกเราตื่นค่ะ เพื่อไปร่วมงาน Grand Opening ตอน 10 โมงเข้าค่ะ เรามีเวลาถึงบ่ายโมงค่ะ เพื่อจะขับรถเข้าลอนดอน เอารถไปคืนที่ฮีทโทร์ว แล้วกลับมาพักที่โรงแรมกลางเมืองค่ะ ก่อนออกจากโรงแรมเราเช็คเอ้าท์เรียบร้อย ที่นี่เช็คเอ้าท์ง่ายค่ะ คืนกุญแจจบเลย แล้วเราก็ไปที่ Village เราเลือกที่จะจอดรถบริเวณเดิมค่ะ แล้วเดินเข้าโซนใหม่เลยค่ะ ร้านแรกที่เราเข้าไปคือ Tory Burch พนักงานน่ารักมาก เราลองรองเท้ามากมายหลายสิบคู่ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ เรียกว่าเกือบทุกอย่างในร้านเลยค่ะ มีโปรโมชัน ซื้อครบ 200 ปอนด์ แถมกระเป๋าสตางค์ยาว 1 ใบด้วยค่ะ เราได้กันมาคนละใบค่ะ

The best employee of the day
พนักงานที่ดูแลเรา

เลือกของไปเรื่อยๆ จนน้องต้องเอาน้ำมาเสิร์ฟ น้องถามว่าแชมเปญจ์ หรือกาแฟไหมคะ คำตอบของพวกเราคือมีโค้กไหมคะ น้องทำหน้ายุ่งมาก ตอบกลับมาว่า มีแต่ Diet ได้ไหมคะ มีอะไรก็กินได้ค่ะ พี่ๆ ไม่เกี่ยง น้องบริการให้คนละ 1 กระป๋องค่ะ พวกเราได้ เป้ ประจำทริปจากร้านนี้ด้วยนะคะ เป้ Tory Burch สีดำ ที่เห็นคู่กับน้องบิบิค่ะ หากใครสนใจเครื่องหนังคุณภาพดี ราคาไม่แพง แนะนำ Tory Burch เลยค่ะ Knot ได้ กระเป๋าสะพาย 1 ใบ เป้ 1 ใบ รองเท้า 1 คู่ ประมาณนั้นค่ะ ราคาหลักพันนะคะ แต่ละชิ้น

จาก Tory Burch เราก็เข้า Rapha ค่ะ ร้านสำหรับคอจักรยาน ได้เสื้อออกกำลังกายมากฝากแม่ 1 ตัว แล้วไปดู Under Armour ค่ะ ได้เสื้อกางเกง ออกกำลังกายสำหรับทั้งคุณแม่และ Knot หลายชุดค่ะ มีของแถมเป็นแก้วเชคโปรตีนค่ะ ยังใช้จนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไป ไวมาก พี่ๆ รอไม่ไหว เดินไปลองชอมอีกรอบค่ะ จัดกันอีก โอ้มายก็อด กลับมาด้วย Longchamp สองถุงใหญ่ๆ ค่ะ Knot เดินกลับไปได้ Cath Kidston มาอีกนิดหน่อยค่ะ

Shop till Drop at Bicester Village
สภาพตอนหิ้วของ

น้องยังกลับไปถอย Gucci เพิ่มมากอีกนะคะ ได้ของหลานสาวมาค่ะ

First round back to car
เดินกลับขิ้นรถ
Fully Packed
เต็มรถค่ะ ไม่มีที่เหลือแล้ว

อาหารกลางวันของเราวันนี้ก็เป็น ITSU อีกเช่นเคย เปลี่ยนกินเมนูอื่นๆ บ้าง แนะนำช็อคโกแลตใส่ถั่วอร่อยมากค่ะ พนักงานเอามาแจก ถ้าใครได้แวะไปนะคะ ร้าน ITSU มีอยู่ทั่วไป เกือบเป็น 7-11 บ้านเราเลยค่ะ

See what I have got
ของที่ซื้อมาทั้งหมดของ Trip นี้

Knot ขับรถออกจาก Bicester เข้าลอนดอนก่อนค่ะ เนื่องจากของเยอะมาก ไม่สามารถขนได้หากไม่มีรถค่ะ เข้าไปเช็คอินที่โรงแรม Commander ตรงข้าม Kensington Park ใกล้สถานี Bayswater และ Queensway ค่ะ เดี๋ยว Knot จะพาตะลุยลอนดอนในโพสต์ต่อไปนะคะ สำหรับโพสต์นี้ Knot ขอจบไว้ตรงนี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามได้ที่ Facebook @TripsinMyMemory  แล้วฝากความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ หากใครสนใจจะไปเที่ยวอังกฤษสอบถามได้นะคะ พร้อมให้คำปรึกษาเสมอค่ะ เจอกันโพสต์ต่อไปกับ ตะลุยอังกฤษ ตะลอนช้อปปิ้ง ตอน Being Londoners นะคะ