ทริปท่องเที่ยวทริปแรกของปีนี้ตามที่วางแผนไว้ของ Knot คือ ทริปฝรั่งเศส-อิตาลีค่ะ เดินทางกันวันที่ 11 – 22 มีนาคม 2563 ทริปนี้เป็นทริปขอบคุณลูกค้าประจำปีของสีเจบีพีค่ะ ด้วยความที่วีซ่าเชงเก้น หรือ Shengen Visa ของ Knot หมดอายุมานานแล้ว คุณ Juth ยังไม่เคยมีเชงเก้นวีซ่าเลยเราก็เลยต้องมาขอวีซ่าด้วยตนเองพร้อมเก็บข้อมูล Biometric data กันไปด้วยเลยค่ะ โพสต์นี้ Knot จะมาบอกเล่าประสบการณ์ การเตรียมเอกสาร และการเตรียมตัวเพื่อไปขอวีซ่าเชงเก้นกับตัวแทนของประเทศฝรั่งเศส หรือ TLScontact กันค่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนค่ะว่าวีซ่าเชงเก้นคืออะไร

วีซ่าเชงเก้น หรือ Schengen Visa คืออะไร

Schengen Visa หรือ วีซ่าเชงเก้น คือ วีซ่าระยะสั้นที่อนุญาตให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเดินทางเข้าประเทศสมาชิกเชงเก้นโดยสามารถพำนักอยู่ได้สูงสุดไม่เกินครั้งละ 90 วันไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวหรือเพื่อทำธุรกิจก็ตาม ปัจจุบันวีซ่าเชงเก้นสามารถใช้เดินทางเข้าออกได้ทั้งหมด 26 ประเทศ ก็จะครอบคลุมพื้นที่เกือบทุกประเทศของยุโรปค่ะ ประเทศที่ใช้วีซ่าเชงเก้นเข้าออกได้ ได้แก่ Austria, Belgium, Czech Republic, Denmark, Estonia, Finland, France, Germany, Greece, Hungary, Iceland, Italy, Latvia, Liechtenstein, Lithuania, Luxembourg, Malta, Netherlands, Norway, Poland, Portugal, Slovakia, Slovenia, Spain, Sweden และ Switzerland (22 ประเทศสมาชิก + 4 EFTA) เมื่อเราได้วีซ่าเชงเก้นแล้ว เราจะสามารถเดินทางเข้าหรือออกประเทศสมาชิกได้ทั้งหมด โดยการข้ามแดนระหว่างประเทศสมาชิกจะไม่ถือว่าเป็นการข้ามเขตแดนค่ะ ดังนั้น ถึงแม้ว่าเราจะได้รับวิซ่าเป็นแบบ Single เราก็ยังสามารถเดินทางเที่ยวหลายประเทศได้หากทุกประเทศเป็นสมาชิกเชงเก้นค่ะ

ประเทศในทวีปยุโรปที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเชงเก้น ได้แก่ Albania, Andora, Armenia, Azerbaijan, Belarus,  Bosnia & Herzegovina, Croatia, Cyprus, Georgia, Ireland, Kosovo, North Macedonia, Moldova, Monaco, Montenegro, Romania, Russia, San Marino, Serbia, Turkey, Ukraine, The United Kingdom และ Vatican City ซึ่งบางประเทศในรายชื่อนี้อนุญาตให้คนไทยเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เช่น รัสเซีย ตุรกี เป็นต้น บางประเทศเช่น โครเอเชีย อนุญาตให้ผู้ที่ถือ วีซ่าเชงเก้นแบบ Multiple ไม่ต้องขอวีซ่า Croatia ได้ค่ะ

กฎใหม่ในการขอวีซ่าเชงเก้น

หลายคนอาจจะทราบแล้วว่า การขอ Schengen Visa มีการเปลี่ยนกฎใหม่เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมานี้เอง สิ่งที่เปลี่ยนจะช่วยให้ผู้ที่ได้รับวีซ่ามีโอกาสที่จะได้วีซ่ายาวขึ้น แต่เดิม Knot เคยได้นานที่สุดคือ 1 ปีค่ะ แต่ค่าธรรมเนียมการออกวีซ่าก็แพงขึ้นด้วยนะคะ จาก 60 ยูโร หรือประมาณ 2,400 บาท เป็น 80 ยูโร หรือประมาณ 3,200 บาท แล้วก็อนุญาตให้ยื่นขอวีซ่าก่อนกำหนดการเดินทางได้ล่วงหน้าถึง 6 เดือนค่ะ เดิมคือไม่เกิน 3 เดือนล่วงหน้าค่ะ อนาคตจะมีอนุญาตให้ยื่นขอวีซ่าผ่านออนไลน์ได้ เหมือนออสเตรเลียที่ยื่นเอกสารและใบสมัครผ่านระบบออนไลน์ แล้วออกวีซ่าผ่านมาอีเมลเลยค่ะ ไม่ต้องส่งเล่มหรือเอกสารใด ๆ เพิ่มเติม ไม่ต้องไปสำนักงานด้วยค่ะ สะดวกมากค่ะ

ขั้นตอนการขอวีซ่าเชงเก้น

ในการขอวีซ่าเชงเก้นจะมีขั้นตอนอยู่ประมาณ 9 ขั้นตอน ซึ่ง Knot ขอแบ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องทำหรือเตรียมตัวก่อนไปยื่นเอกสาร และขั้นตอนที่ทำในวันที่ไปยื่นเอกสาร ขั้นตอนที่เราต้องทำหรือเตรัยมก่อนไปยื่นเอกสารได้แก่ขั้นตอนที่ 1-6 ส่วนขั้นตอนที่ 7-8 เราต้องทำในวันที่เราไปยื่นเอกสารหรือนัดสัมภาษณ์นั่นเองค่ะ ขั้นตอนต่าง ๆ มีดังนี้

  1. หาว่าเราต้องยื่นขอวีซ่าประเภทใด
  2. หาว่าเราต้องไปยื่นขอวีซ่าเชงเก้นที่ไหน
  3. หาเวลาที่เหมาะสมในการไปยื่นขอวีซ่า
  4. กรอกใบสมัคร
  5. ทำการนัดหมาย
  6. เตรียมเอกสารประกอบให้พร้อม
  7. ไปยื่นเอกสาร/สัมภาษณ์ตามนัด
  8. ชำระเงินค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า
  9. รอรับหนังสือเดินทางคืน

ประเภทของ Shengen Visa มีอะไรบ้าง

วีซ่าเชงเก้น หรือ Schengen Visa แบ่งออกเป็น 8 ประเภทตามวัตถุประสงค์ในการเดินทางไปยังประเทศสมาชิกเชงเก้นของเรา ซึ่งได้แก่

  • Transit visa หรือวีซ่าเดินทางผ่าน คือ วีซ่าระยะสั้นที่อนุญาตให้ผู้เดินทางเดินทางผ่านเข้าไปในประเทศที่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปสู่ประเทศเป้าหมายปลายทาง ซึ่ง Transit Visa จะแบ่งย่อยออกได้อีกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. Airport Transit Visa หรือ Airside Transit Visa  คือ วีซ่าสำหรับการแวะเปลี่ยนเครื่องบินที่สนามบินในกลุ่มประเทศ Schengen โดยจะอนุญาตให้ผู้เดินทางเดินทางเข้าไปในเขตที่ใช้เป็นเส้นทางเดินทางระหว่างประเทศ (International Zone) ของสนามบิน และอยู่ที่สนามบินจนกระทั่งถึงเวลาเที่ยวบินที่จะออกเดินทางต่อไปยังประเทศจุดหมายปลายทางในช่วงระยะเวลาไม่เกินกี่ชั่วโมงแล้วแต่ประเทศนั้น ๆ จะกำหนด เช่น ไม่เกิน 10 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทยไม่อยู่ในกลุ่มที่ต้องทำวีซ่าประเภทนี้ ผู้ที่ต้องยื่นขอวีซ่า Airport Transit Visa ในสนามบินกลุ่มประเทศเชงเก้น เช่น ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศ Afghanistan, Bangladesh, Democratic Republic of the Congo, Eritrea, Ethiopia ฯลฯ ซึ่งแต่ละประเทศสมาชิกมีกำหนดรายชื่อผู้ที่ต้องยื่นขอ Transit Visa ไม่เหมือนกัน จึงแนะนำว่าควรต้องตรวจสอบกับเว็บไซต์ของแต่ละสถานฑูตก่อนการเดินทางเพื่อความแน่ชัดค่ะ
  • Tourism visa หรือ วีซ่าท่องเที่ยว คือ วีซ่าระยะสั้นที่อนุญาตให้ผู้เดินทางสามารถเดินทางเข้าออกประเทศสมาชิกโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติได้สูงสุด 90 วันภายในระยะเวลา 6 เดือนหรือแล้วแต่ระบุไว้ในวีซ่าเป็นอย่างอื่น
  • Visa for Visiting Family or Friends หรือวีซ่าเยี่ยมครอบครัวหรือเพื่อน คือวีซ่าสำหรับผู้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเดินทางไปเยี่ยมสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ ประเทศสมาชิกเชงเก้นค่ะ ซึ่งต้องแสดงจดหมายเชิญจากผู้เชิญพร้อมหลักฐานสิทธิการพำนักอาศัย ณ ประเทศสมาชิกด้วย ในกรณีที่ผู้เชิญมิได้ถือสัญชาติของประเทศสมาชิก เช่น Permanent Resident Visa ของผู้เชิญ เป็นต้น
  • Business visa หรือวีซ่าธุรกิจ คือวีซ่าที่ประเทศสมาชิกออกให้ผู้เดินทางซึ่งเดินทางมาเพื่อประกอบธุรกิจ ณ ประเทศสมาชิก
  • Visa for Culture and Sport activities หรือวีซ่าเพื่อร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการแข่งขันกีฬา หรือบางครั้งเราจะเรียนว่าวีซ่านักกีฬาค่ะ เป็นวีซ่าระยะสั้นที่ประเทศเชงเก้นซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพจะออกวีซ่าให้กับผู้ร่วมแข่งขันกีฬาหรือกิจกรรมทางวัฒนธรรม รวมถึงผู้ชมกิจกรรมในนั้น ๆ ด้วยค่ะ
  • Visa for Official Visits คือวีซ่าสำหรับผู้เดินทางที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการจากประเทศสมาชิกเชงเก้น
  • Study visa คือวีซ่าสำหรับผู้เดินทางที่เข้ามาและพำนักอาศัยระยะสั้น ณ ประเทศสมาชิกเพื่อการศึกษา ต่างกับวีซ่านักเรียน หรือ Student Visa ที่ออกให้สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามา เพื่อการศึกษาต่อและพำนักในประเทศสมาชิกเป็นระยะเวลานานกว่า 90 วันค่ะ
  • Visa for Medical Reasons คือ วีซ่าสำหรับผู้เดินทางที่มีวัตถุประสงค์เพื่อมารับการรักษา ณ ประเทศสมาชิกเท่านั้น

ซึ่งทริปนี้ Knot มีวัตถุประสงค์เพื่อไปท่องเที่ยวค่ะ ดังนั้น Knot ก็ต้องยื่นขอวีซ่าประเภทท่องเที่ยวหรือ Tourist Schengen Visa ค่ะ หลังจากทราบแล้วว่าเราต้องขอวีซ่าเชงเก้นประเภทท่องเที่ยว เราก็ทำตามขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ

ขอ Schengen Visa กับสถานฑูตหรือตัวแทนของประเทศไหนดี

เมื่อเรารู้ว่าเราจะต้องขอวีซ่าเชงเก้นประเภทท่องเที่ยวแล้ว ถ้าเราไปประเทศเดียวก็ยื่นขอวีซ่าที่สถานฑูตหรือตัวแทนของประเทศนั้น ๆ ได้เลยค่ะ สามารถหาข้อมูลได้จาก Google หรือเว็บไซต์ของสถานฑูตประเทศนั้น ๆ ค่ะ หากเราจะเดินทางไปหลายประเทศ คำถามต่อไปก็คือ แล้วเราต้องยื่นขอวีซ่ากับสถานฑูตหรือตัวแทนของประเทศไหน ตามกฎในการขอ Schengen Visa แล้ว ผู้เดินทางต้องยื่นขอวีซ่ากับสถานฑูตหรือตัวแทนของประเทศที่เป็น Main Destination หรือ First Entry ก็ได้ค่ะ Main Destination หมายถึง ประเทศที่เราเดินทางไปพำนักอยู่มากที่สุดในทริป เช่น ทริปนี้ Knot อยู่ในประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 วัน 5 วันแรกจะอยู่ในฝรั่งเศส และ 5 วันหลังเราจะเที่ยวที่อิตาลี ดังนั้น ทั้งสองประเทศจึงมีจำนวนวันที่เราพักอยู่เท่ากัน จึงต้องเลือกใช้เกณฑ์ First Entry ค่ะ คือ ประเทศแรกที่เราเดินทางเข้าพื้นที่เชงเก้นค่ะ จากประสบการณ์การขอวีซ่าเชงเก้นจากทั้งสองประเทศนี้แล้ว Knot เลือกฝรั่งเศสค่ะ เนื่องจาก การบริการของเจ้าหน้าที่ TSLcontract รวมถึงระบบการจัดการดีกว่าของที่อื่นเยอะ วีซ่าก็ออกค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับของที่อื่น ถ้าเป็นก่อนเปลี่ยนกฎ Knot บอกได้เลยว่า หากทำประกันการเดินทางแบบรายปีไป ก็จะได้ Tourist Schengen Visa แบบ Multiple อายุ 1 ปีค่ะ แต่ตอนนี้เมื่อเปลี่ยนกฎแล้วต้องมาลุ้นกันค่ะ ว่าจะได้วีซ่ากันยาวขนาดไหน

ซึ่งถ้า Main Destination และ First Entry เป็นประเทศเดียวกันก็แปลว่าเราจะต้องยื่นขอวีซ่ากับตัวแทนสถานฑูตประเทศนั้นเท่านั้น แต่หากเป็นคนละประเทศกัน ก็สามารถเลือกได้ตามความสะดวกของผู้ยื่นขอวีซ่าค่ะ

Knot ขอแนะนำเพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศเชงเก้นนะคะ ควรไปขอที่ประเทศแรกที่จะเดินทางเข้าค่ะ เพราะถ้าเป็นวีซ่าเชงเก้นที่ออกโดยประเทศอื่น แล้วไปเดินทางเข้าอีกประเทศหลายครั้งจะโดนถามหลายคำถามตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศนั้น ๆ ว่ามาทำอะไร ไปพักที่ไหน อะไรแบบนี้ค่ะ แต่ถ้ามั่นใจในการตอบคำถามก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะ Knot เคยใช้วีซ่าเชงเก้นที่ออกโดยสถานฑูตฝรั่งเศสในการเดินทางเข้าเยอรมนี กรีซ มาแล้ว ก็จะโดนถามมากนิดนึงค่ะ แต่ก็เข้าได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ

Let's go France

หาเวลาที่เหมาะสมในการไปยื่นขอวีซ่า

ตามกฎใหม่ของการยื่นขอวีซ่าเชงเก้น เราสามารถยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าได้ไม่เกิน 6 เดือน และต้องยื่นยอวีซ่าก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 15 วัน ระยะเวลาในการขอวีซ่าเร็วที่สุดคือ 3 วัน (Express service) ช้าที่สุดคือ 15 วัน กรณีที่ยื่นเอกสารครบในวันที่นัดหมายค่ะ สำหรับการขอวีซ่าเชงเก้นผ่าน TSLcontract ซึ่งเป็นตัวแทนของสถานฑูตฝรั่งเศสในกรุงเทพฯ ยังไม่มีบริการแบบด่วน หรือ express ให้บริการค่ะ แต่มีบริการไปเก็บ Biometric Data นอกเวลา นอกสถานที่ได้โดยผู้สมัครต้องชำระเงินค่าบริการเพิ่มค่ะ แล้วก็มีบริการ Premium Lounge สำหรับผู้ต้องการบริการแบบ exclusive ค่ะ แต่ค่าบริการก็แพงอยู่ค่ะและคิดเป็นรายบุคคล เหมาะสำหรับกรณีที่เราไม่สามารถนัดหมายในเวลาที่เราต้องการได้ค่ะ Premium Lounge จะมี Slot การจองที่พิเศษกว่าและมักจะว่างให้เราจองเสมอค่ะ ถ้าเราไม่ได้นัดหมายไว้ แต่ Walk-in เข้าไปยื่นวีซ่า หรือไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมนอกเวลานัดหมาย TSLcontract ก็จะคิดค่าบริการเพิ่มเติมค่ะ 1,600 บาท สำหรับการ walk-in ค่ะ ดังนั้นไม่ควรลืมนัด และควรวางแผน กรอกใบสมัครและทำการนัดหมายล่วงหน้านาน ๆ หน่อยค่ะ

การกรอกใบสมัครและทำการนัดหมาย

สำหรับการขอเชงเก้นวีซ่าของประเทศฝรั่งเศส เราสามารถสมัครและล็อกอินเข้าไปในระบบและกรอกแบบฟอร์มผ่านระบบออนไลน์ได้เลยค่ะ ซึ่งหากกรอกไม่เสร็จ เราสามารถเข้าไปกรอกต่อและแก้ไขได้ตลอดเวลา จนกว่าเราจะกด Submit หรือเสร็จสิ้น ระบบจะให้ Reference Number และให้เราพิมพ์ใบสมัครพร้อมข้อมูลที่เรากรอกลงไปออกมา

Reference Number นี้จะใช้ในการนัดหมายวันไปยื่นเอกสาร/สัมภาษณ์ที่สำนักงานตัวแทนค่ะ แล้วจะมีลิงค์ซึ่งจะพาเราไปยังหน้าจอนัดหมายการวันสัมภาษณ์หรือวันยื่นเอกสารค่ะ พร้อมรายการเอกสารที่เราต้องเตรียมเพื่อไปยื่นในวันนัดหมายด้วยค่ะ เมื่อเรานัดหมายเรียบร้อยแล้ว ระบบจะออกใบนัดให้เราที่มีรายละเอียด ชื่อ-นามสกุล ผู้ยื่นขอวีซ่าทุกคน จำนวนคน หมายเลขหนังสือเดินทาง รวมถึงวันและเวลานัดหมายด้วยค่ะ ซึ่งเราต้องพิมพ์เอกสารแผ่นนี้ออกมาแล้วถือไปพร้อมเอกสารนะคะ โดยลำดับการจัดเอกสารควรใส่จดหมายฉบับนี้ไว้เป็นแผ่นแรกเลยค่ะ

เราสามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดหมายได้ก่อนถึงวันนัด 24 ชม ค่ะ ถ้าเกินกว่านั้นต้องเริ่มต้นกรอกใหม่และทำการนัดหมายใหม่ค่ะ อย่าลืมเซ็นชื่อในใบสมัครสองชื่อด้วยนะคะ และพิมพ์เอกสารวันและเวลานัดหมายไปด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่จะตรวจก่อนเข้ารับคิวยื่นเอกสารค่ะ ระบบจะลบข้อมูลทั้งหมดที่เรากรอกไว้หากเราไม่ไปยื่นเอกสารในวันและเวลาที่นัดหมายนะคะ ถ้าไปช้าแต่ไปในวันนั้น เจ้าหน้าที่อาจให้เราเข้าไปยื่นเอกสารได้ แต่อาจจะคิดค่าบริการแบบ Walk-in เพิ่มขึ้นค่ะ ดังนั้น ก่อนทำการนัดหมายอย่าลืมตรวจให้ดีก่อนนะคะ

หากไม่อยากรอนาน Knot แนะนำว่าให้เลือกนัดหมาย Slot แรก ๆ ของวันค่ะ คนจะไม่เยอะมาก 1 วันเค้าจะรับประมาณ 200 คิวค่ะ ซึ่งช่วงเช้าเจ้าหน้าที่บอกว่าคนจะน้อยมาก จะไปเยอะช่วงสายและบ่ายไปแล้วค่ะ ครั้งนี้ Knot นัดตอน 9 โมงเช้าค่ะ

เอกสารที่ใช้ในการขอ Schengen Visa สำหรับการท่องเที่ยว

  1. Confirmation letter หรือ จดหมายยืนยันการนัดหมายที่ออกโดยระบบของ TSLcontract หลังจากทำการนัดสำเร็จเรียบร้อยแล้ง ซึ่งจดหมายจะระบุรายละเอียดการยื่นขอวีซ่าของทุกคน วันและเวลานัดหมายที่ทำการจองไว้ ควรตรวจสอบชื่อ-นามสกุลที่สะกดและรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องนะคะ
  2. Visa Application Form หรือแบบฟอร์มการยื่นขอวีซ่า เราสามารถกรอกแบบฟอร์มการขอวีซ่าของประเทศฝรั่งเศสได้ผ่านทางเว็บไซต์ หากเดินทางไปพร้อมกันสามารถกรอกได้สูงสุด 6 คนต่อหนึ่ง user ค่ะ ซึ่งเมื่อกรอกแบบฟอร์มเรียบร้อยแล้ว ระบบจะให้เราพิมพ์แบบฟอร์มออกมาแล้วให้เราเซ็นต์ชื่อในแบบฟอร์ม 2 จุดด้วยกันค่ะ หลังจากนั้นระบบจะให้เราไปเลือกวันนัดหมายเพื่อยื่นเอกสารต่อไปค่ะ
  3. 2 Photos หรือ ภาพถ่ายสี 2 ใบ ขนาด 45 x 35 มม หรือ 2 นิ้ว พื้นหลังขาว/สีสว่าง ถ่ายมาไม่เกิน 3 เดือน ต้องเห็นหน้าประมาณ 70-80% ของรูปและเปิดให้เห็นหูด้วยค่ะ
  4. Passport หรือ หนังสือเดินทาง หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนในวันออกเดินทางนะคะ
  5. A copy of your passport’s data page หรือ สำเนาหน้าแรกของหนังสือเดินทางของเรา 1 ใบค่ะ ถ้าจะมอบอำนาจให้ใครมารับหนังสือเดินทางให้เตรียมมา 2 ใบนะคะ
  6. Roundtrip flight reservation หรือ ใบจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ซึ่งเป็นเอกสารแสดงรายละเอียดเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากปรเทศสมาชิกเชงเก้น ที่ระบุวันที่และหมายเลขเที่ยวบินค่ะ และต้องเป็นเอกสารการจองตั๋งเครื่องบินที่ตรวจสอบได้ผ่านระบบออนไลน์ เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินไม่จำเป็นต้องเป็นตั๋วเครื่องบินที่ออกแล้วนะคะ แค่ใบจองก็เพียงพอค่ะ เนื่องจากหากถูกปฏิเสธไม่ให้วีซ่าเราไม่สามารถบอกว่าเราออกตั๋วและชำระเงินแล้วเป็นข้อโต้แย้งได้นะคะ
  7. Travel Medical Insurance หรือประกันการเดินทาง ซึ่งต้องครอบคลุมพื้นที่ประเทศสมาชิกเชงเก้นทั้งหมด และมีวงเงินประกันอย่างน้อย €30,000 และครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทางทั้งหมด
  8. Proof of accommodation หรือเอกสารการจองที่พัก ซึ่งต้องระบุชื่อผู้จองและผู้เข้าพักทุกคนนะคะ ซึ่งอาจเป็น
    • ใบตอบรับการเข้าพักรักษาในคลินิคหรือโรงพยาบาล
    • ใบจองโรงแรม
    • จดหมายเชิญ
    • สัญญาเช่า
  9. หนังสือรับรองสถานภาพ หรือ Proof of civil status (ถ้ามี) เช่น ใบสำคัญสมรส หรือทะเบียนสมรส สูติบัตรสำหรับเด็ก ใบมรณะบัตรของสามี เป็นต้น
  10. หลักฐานการชำระเงินค่าธรรมเนียม หรือ Proof of paid fee สำหรับบางสถานฑูตหรือตัวแทนที่ให้ชำระเงินก่อน แต่สำหรับ TSLcontract ให้มาชำระเงินในวันนัดหมายค่ะ ปัจจุบันค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าอยู่ที่คนละ 80 ยูโรสำหรับผู้ใหญ่ค่ะ เนื่องจากการยื่นของวีซ่าของฝรั่งเศสเป็นการยื่นผ่านตัวแทน TSLcontract ก็จะมีค่าธรรมเนียมการบริการของตัวแทนด้วยค่ะ อยู่ที่คนละ 1270 บาท ซึ่งปัจจุบันสามารถชำระได้ด้วยบัตรเครดิตแล้วค่ะ แต่หากชำระเงินด้วยบัตรเครดิตจะมีค่าธรรมเนียมการชำระผ่านบัตรอีก 100 บาทค่ะ แล้วก็หากให้ส่งไปรษณีย์ไปให้ ก็จะต้องจ่ายเพิ่มค่าไปรษณีย์อีก 160 บาทค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายสาวนนี้ถือว่าถูกว่าค่าบริการของ VSF ซึ่งเป็นอีกตัวแทนที่ให้บริการยื่นขอวีซ่าเชงเก้นของประเทศอื่น ๆ เช่น อิตาลี สเปนค่ะ
  11. Proof of financial means หรือหลักฐานทางการเงิน ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงว่าผู้ยื่นขอวีซ่ามีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดการเดินทาง ซึ่งได้แก่:
    • Bank statements หรือรายงานการเคลื่อนไหวทางบัญชี 6 เดือนย้อนหลัง อัพเดทล่าสุดไม่เกินกว่า 15 วันก่อนวันนัดหมาย ยิ่งใกล้วันนัดหมายเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ แต่ไม่ใช่เอาเงินไปใส่วันยื่นแล้วอัพเดทมาเลยนะคะ จะเป็นที่น่าสงสัย บัญชีที่ยื่นควรเป็นบัญชีที่ใช้ประจำมีเงินเข้าออก และสุดท้ายให้มีค้างในบัญชีอย่างน้อย 10,000 ต่อวันค่ะ เช่น ไป 10 วันควรมีประมาณ 100,000 บาท หรือถ้าสามารถประมาณการว่าค่าใช้จ่ายที่เราจะใช้ประมาณวันละเท่าไหร่ ก็ให้มีเงินติดบัญชีไว้มากว่านั้นนิดหน่อยค่ะ ปกติของ Knot จะประมาณทริปละ 5-7 หมื่นบาท ก็จะให้มีไว้ประมาณนี้ค่ะ
    • Letter of sponsorship + bank statements of the sponsor ถ้ามีคนออกเงินให้ เช่น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง หรือแฟน สามารถให้ธนาคารออก Bank Guarantee ให้ได้นะคะ โดยใช้บัญชีของผู้ออกเงินให้ และนำ Bank Statement ของผู้ออกเงินแนบมาด้วยค่ะ
    • Proof of advance payments for the treatment + bank statements for other related expenses หนังสือรับรองการชำระเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จ่ายไปก่อนแล้วค่ะ รวมถึง Statement ที่ระบุว่าเราจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปแล้วค่ะ (หากมีการจ่ายค่าใช้จ่ายเช่นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ควรพิมพ์ใบเสร็จรับเงินแนบไปด้วยค่ะ แล้วเงินที่เหลือติดบัญชีสามารถหักยอดส่วนนี้ออกไปได้ค่ะ)
  12. Documents Based on Patient’s Employment status หรือ หลักการแสดงสถานภาพการทำงานตามสภาพการจ้างงาน ดังนี้:
    1. พนักงานบริษัทหรือลูกจ้าง:
      • สัญญาจ้าง
      • หนังสือรับรองการลางานจากบริษัท
      • ใบสำคัญจ่ายเงินเดือน 6 เดือนล่าสุด
      • ภงด 90/91
    2. เจ้าของกิจการ:
      • หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลหรือทะเบียนการค้า อายุไม่เกิน 3 เดือน
      • รายงานการเคลื่อนไหวทางบัญชี 6 เดือนย้อนหลังของกิจการ
      • ภงด 50/51
    3. นักเรียนหรือนิสิตนักศึกษา:
      • หนังสือรับรองความเป็นนักเรียน / นิสิต / นักศึกษา
    4. เกษียรอายุ:
      • รายงานการรับเงินบำนาญอย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
  13. เอกสารเพิ่มเติมสำหรับผู้เยาว์:
    1. สูติบัตร – ตัวจริงและสำเนา
    2. หนังสือยินยอม (สามารถขออกได้ที่ที่ว่าการอำเภอหรือเทศบาลในท้องถิ่นตามทะเบียนบ้านที่ผู้เยาว์พำนักอยู่)
      1. จากบิดามารดาคนใดคนหนึ่ง – หนังสือยินยอมอย่างเป็นทางการที่ระบุบิดาหรือมารดายินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปกับอีกฝ่ายหนึ่งได้
      2. จากทั้งบิดาและมารดา – หนังสือยินยอมอย่างเป็นทางการที่ระบุว่าบิดาและมารดาของผู้เยาว์ยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปกับบุคคลที่สามได้
      3. ใบมรณบัตรของบิดาหรือมารดา กรณีที่บิดาหรือมารดาเสียชีวิต

การเดินทางไปยื่นเอกสาร/สัมภาษณ์ในวันหนัดหมาย

TSLContract สำนักงานตัวแทนของสถานฑูตฝรั่งเศสตั้งอยู่ที่ชั้น 12 อาคารสาทร ซิตี้ ค่ะ Knot เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีช่องนนทรี เดินออกไปตามทางออกที่ 5 ข้ามสะพานลอยแล้วเลี้ยวซ้าย เดินลงสะพานลอย (จะเห็นอาคารบางกอกซิตี้ค่ะ) เดินตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านอาคารบางกอกซิตี้ไปอยู่ซ้ายมือค่ะ หน้าอาคารมีชื่ออาคารเขียนไว้ และมี Starbucks ให้ไปนั่งรอได้ค่ะ ก่อนขึ้นอาคารต้องไปลงทะเบียนรับบัตรขึ้นอาคารที่เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ตรงทางเข้าค่ะ นำบัตรประชาชนไปยื่น เจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปเราแล้วยื่นบัตรประชาชนคืนพร้อมกับบัตรขึ้นอาคารค่ะ แนะนำว่าควรไปถึงอาคารอย่างน้อย 15 นาทีก่อนเวลานัดหมายค่ะ

เมื่อแลกบัตรเรียบร้อย ก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปเลี้ยวซ้ายใช้บัตรที่ได้มาสแกนเข้าไปเพื่อขึ้นลิฟต์ไปชั้น 12 ได้เลยค่ะ เมื่อถึงชั้น 12 เดินออกจากลิฟต์ไปฝากโทรศัพท์มือถือไว้พร้อมรับบัตรสีขาวเพื่อใช้เข้าไปยื่นเอกสารค่ะ 1 ใบสมัครเค้าจะให้ 1 ใบนะคะ ดังนั้น ผู้ติดตามจะเข้าไปด้านในไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตค่ะ เมื่อเข้าไปจะมีการตรวจค้นกระเป๋าถ้าไม่ได้ฝากโทรศัพท์ไว้ก็จะโดนให้กลับออกไปฝากค่ะ แล้วยื่นเอกสารพร้อมหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ที่เค้าเตอร์เรียกคิวค่ะ เจ้าหน้าที่ตรวจชื่อและเวลานัดหมาย แล้วให้เข้าตามคิวค่ะ ถ้าเราไปก่อนเวลาก็จะมีที่ให้เรานั่งรอได้ค่ะ พอเข้าไปด้านในก็หาที่นั่งค่ะ รอเจ้าหน้าที่เรียกชื่อเข้าไปสัมภาษณ์ซึ่งจะถามว่าเราเป็นใคร ทำงานอะไร จะเดินทางไปไหน ไปทำอะไรบ้าง ไปกับใคร หลักการคือตอบให้ตรงกับข้อมูลที่เรากรอกไปในใบสมัครค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จุดนี้ เค้าจะตรวจเอกสารที่เรายื่นโดยละเอียด ถ้ามีเอกสารไม่ครบเค้าจะให้เราเซ็นต์ชื่อรับทราบว่าเรายื่นเอกสารไม่สมบูรณ์ค่ะ ถ้าเรายื่นพร้อมกันเป็นกลุ่มเค้าจะเรียกชื่อเราทีละคนค่ะ ถามทุกคนและให้เซ็นชื่อรับรองเอกสารของแต่ละคนค่ะ ถ้ามีคนใดคนหนึ่งเอกสารไม่สมบูรณ์ หากเป็นเรื่องการเงิน สามารถให้อีกคนเขียนจดหมายรับรองเป็น Sponsor ให้ได้นะคะ แต่ต้องเป็นคนที่เดินทางไป-กลับด้วยกันอยู่แล้วนะคะ

หลังจากเซ็นต์ชื่อรับทราบการตรวจเอกสารเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะให้เราเดินไปชำระเงินที่ Cashier ค่ะ จ่ายเงินเสร็จจะได้ใบเสร็จกลับมาให้เจ้าหน้าที่คนเดิมอีกทีค่ะ แล้วเค้าจะแพ็คเอกสารทั้งหมดของทุกคนในกลุ่มใส่ถุงสีน้ำเงินให้เราถือไปรอเก็บ Biometric data ค่ะ ถ้าใครมีเอกสารรับรองการเก็บ Biometric Data แล้ว ครั้งต่อไปก็สามารถยื่นขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์หรือให้คนอื่นมายื่นแทนได้ค่ะ ไม่ต้องมาด้วยตนเอง แต่ถ้ามาแล้วก็เก็บใหม่อีกครั้งก็จะยืดอายุของการเก็บข้อมูลต่อไปค่ะ Knot เคยเก็บมาแล้วประมาณ 3 ปีที่แล้วค่ะ แต่คุณ Juth ยังไม่เคยเก็บก็เลยมาพร้อมกันก็เก็บข้อมูลใหม่ไปพร้อมกันเลยค่ะ นั่งรอไม่นานพนักงานก็เรียกให้เข้าไปเก็บข้อมูลค่ะ คนแรกที่เข้าไปให้ถือถุงเอกสารเข้าไปด้วยนะคะ พนักงานจะถ่ายรูป สแกนนิ้วทั้ง 10 ของเราค่ะ แล้วจะพิมพ์หนังสือรับรองการเก็บ Biometric data มาให้เรา 1 ใบค่ะ ใบนี้มีอายุ 5 ปี ถ้ามาขอวีซ่าที่ฝรั่งเศสอีกก็ไม่ต้องมาด้วยตัวเองแล้วค่ะ

หลังจากเก็บข้อมูลเรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จพิธีการค่ะ ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงขาดเกินไม่มากนัก เพราะเอกสาร Knot เยอะมากค่ะ หนาประมาณ 1 นิ้วได้ค่ะ เสร็จเรียบร้อยเราก็รอผลค่ะ การรับเล่มคืนมีสองแบบ ก็คือ มารับเล่มเอง หรือให้ส่งไปรษณีย์แบบด่วนพิเศษค่ะ การมารับเล่มเอง เค้าจะแจ้งผลทาง SMS/Email แล้วเราก็มารับเล่มหรือมอบอำนาจให้ใครมารับแทนก็ได้ค่ะ (หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของหนังสือเดินทางและสำเนาหนังสือเดินทางค่ะ) สำหรับครั้งนี้ เนื่องจากเรารีบเพราะคุณ Juth จะต้องเดินทางไปทำงานที่อินโดนีเซียในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เราก็เลยเลือกที่จะไปรับเล่มเองค่ะ คาดว่าจะได้รับผลไม่เกินวันที่ 20 กุมภาพันธ์ แล้วได้ผลยังไง Knot จะมาอัพเดทให้ทราบกันค่ะ

Update Visa Status

อัพเดทนะคะ เราไปยื่นขอวีซ่าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 วันนี้ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 18.00 น คุณ Juth ได้รับ SMS ส่งมาหาบอกว่าสามารถไปรับเล่มได้แล้ววันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-16.30 น ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 36 ชม ในการพิจารณาและส่งเล่มกลับมาที่ TSLcontract แต่ของ Knot ยังไม่ได้รับ SMS เลยค่ะ แต่คาดว่าน่าจะมาพร้อมกัน

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 Knot ฝากให้คนไปรับเล่มมาให้พร้อมกับของคุณ Juth ค่ะ เนื่องจาก Knot ไม่ได้รับ SMS แต่ก็ได้รับเล่มคืนมาพร้อมกันค่ะ เพราะกลับมาในซองเดียวกัน ผลวีซ่าคือ Knot ได้วีซ่าอายุ 1 ปีค่ะ ส่วนคุณ Juth เนื่องจากเป็นการขอ Schengen Visa ครั้งแรกจึงได้มาเพียง 3 เดือนเท่านั้นค่ะ แต่เป็น Multiple Visa ทั้งสองคนค่ะ

เมื่อรับหนังสือเดินทางกลับมาแล้ว อย่าลืมตรวจตัวสะกดชื่อนามสกุลให้ถูกต้อง และดูวันเดือนปีของวันที่ออกวีซ่า และวันหมดอายุให้ดี ๆ นะคะ เราสามารถใช้วีซ่าเข้าออกประเทศสมาชิกเชงเก้นได้จนวันหมดอายุของวีซ่าเลยค่ะ นอกจากนี้ ใกล้ ๆ หน้าวีซ่ามีกระดาษโน๊ตเล็กๆ แนบมาให้เป็นคำเตือนสำหรับผู้ถือ Schengen Visa ค่ะว่าเราจะต้องเตรียมหลักฐานอะไรบ้างเผื่อไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศฝรั่งเศสดูขณะเดินทางเข้าประเทศค่ะ เอกสารเหล่านั้น คือ (1) หลักฐานแสดงวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้าประเทศฝรั่งเศส เช่น สำหรับการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ต้องมีหลักฐานการจองที่พัก หากไม่มี ต้องยืนยันได้ว่าสามารถจ่ายได้ 120 ยูโรต่อวัน เอกสารจากบริษัททัวร์ หากเป็นการเดินทางเพื่อธุรกิจ ต้องมีหลักฐานจากนายจ้าง จดหมายเชิญจากหน่วยงานในฝรั่งเศส เป็นต้น (2) หลักฐานทางการเงิน เช่น เงินสด บัตรเครดิตที่สามารถใช้ที่ต่างประเทศได้ (3) หลักฐานยืนยันการเดินทางกลับ หรือตั๋วเครื่องบินขากลับนั่นเอง

จากคำเตือนที่แนบมาด้วย Knot ขอตอบคำถามที่หลายคนถามมานะคะว่า “เงินในบัญชีควรมีขั้นต่ำเท่าไร่” คำตอบคืออย่างน้อย 120 ยูโรต่อวัน หรือ 4,800 บาทต่อวันค่ะ ถ้าไป 10 วันก็ 48,000 บาท ถ้าจะให้ดีก็ควรมีมากกว่านี้เผื่อไว้สักหน่อย ให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเรามีเงินเพียงพอจริง ๆ ค่ะ

สุดท้ายนี้ Knot ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ โพสต์นี้ก็ยาวมากอีกเช่นเคย แต่ Knot หวังว่าจะเป็นแหล่งข้อมูลให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนที่อยากทราบเรื่องการขอวีซ่าเชงเก้นค่ะ กฎเกณฑ์เหล่านี้ใช้ได้กับการขอวีซ่าเชงเก้นทุกประเทศค่ะ แตกต่างกันที่ระยะเวลาในการขอและสถานที่ยื่นขอวีซ่าค่ะ หาก Knot มีโอกาสไปขอวีซ่าเข้าประเทศอื่น ๆ อีกจะมาเล่าให้ฟังกันอีกค่ะ

อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กด Subscribe และมาพูดคุยกับ Knot ได้ที่:
Facebook FanPage, Instagram, YouTube

Photo by nappy and avelingTart from Pexels