Arun Temple at Dawn

สวัสดีค่ะทุกคน Knot จะมาพาทุกคนเดินทางไปดื่มด่ำกับอาหารไทยต้นตำรับ ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาในวันฝนตก Knot พยายามจะสำรองที่นั่งที่นี่มาตั้งแต่ได้ชมรายการตีท้ายครัวบ้านคุณฮาน่า ที่เปิดบ้านจักรพงษ์ให้ทุกคนได้ชมกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Knot ได้รู้ว่าที่นี่เปิดบริการร้านอาหารและเป็นวิลล่าให้มาพักกันได้ค่ะ แต่ก็ไม่สำเร็จค่ะ เพราะทุกครั้งที่ Knot พอจะมีเวลา ที่นั่งก็เต็มหมดแล้วค่ะ จนเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม หลังจากรัฐบาลเริ่มคลายล็อกไม่นานเรามีวันหยุดยาวกัน Knot และคุณ Juth ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยความกลัวรถติดค่ะ เลยวางแผนจัดทริปไหว้พระในกรุงเทพชั้นในแทนค่ะ เป็นโชคดีที่เราสามารถจองที่นั่งที่ จักรพงษ์วิลล่า ได้ค่ะ

การสำรองที่นั่ง Private Dinning ที่จักรพงษ์วิลล่า

เรามาทานอาหารกัยในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ค่ะ Knot สำรองที่นั่งผ่านมา Facebook อาหารไทยริมแม่น้ำ ณ วังจักรพงษ์ Thai Dining at Chakrabongse Villas ซึ่งเราสามารถคลิก Book Now เพื่อเลือกวันและเวลาที่เราต้องการได้ค่ะ เมื่อเลือกแล้วก็มีพนักงานติดต่อกลับมาทาง Messenger ให้โทรไปคอนเฟิร์มกับทางร้านอาหารอีกครั้ง Knot สำรองที่นั่งไปตอนกลางคืนของวันพุทธค่ะ วันพฤหัสตอนเช้าก็มีเจ้าหน้าที่มาตอบใน Messenger ค่ะ คอนเฟิร์มเรื่องเวลาและรายการอาหารค่ะ สามารถขอปรับเปลี่ยนรายการอาหาร รวมถึงขอบริการพิเศษ เช่น เค้กวันเกิด กับพนักงานได้เลยค่ะ ซึ่งราคาอยู่ที่ 2,500 บาทต่อคนไม่รวมค่าเครื่องดื่มค่ะ ชำระเงินล่วงหน้าด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารค่ะ การสำรองที่นั่งถือว่าสะดวกดีค่ะ ไม่ล่าช้า

สัญลักษณ์ประจำบ้านจักรพงษ์ คือ กงจักร และ กระบอง เพื่อแสดงอาณาเขตของวัง

การเดินทางไปจักรพงษ์วิลล่า

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นนะคะ Knot และคุณ Juth เราไปไหว้พระที่วัดต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ชั้นในก่อนที่จะมาทานอาหารค่ำที่จักรพงษ์วิลล่า เราสองคนจึงเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ ซึ่งทางจักรพงษ์วิลล่า มีที่จอดรถให้นะคะ แต่ต้องโทรศัพท์บอกพนักงานให้เปิดประตูวังรับค่ะ ปกติ ประตูจะปิดไว้ ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาจอดค่ะ ต้องเป็นแขกที่สำรองที่นั่งมาเท่านั้นค่ะ นอกจากนี้ สามารถเดินทางมาทาง MRT ลงที่สถานีสนามไชย แล้วต่อรถตุ๊กตุ๊ก หรือเดินมาก็ได้ค่ะ เดินทะลุมิวเซียมสยามมาออกทางด้านหลัง ข้ามถนนมาก็ไม่ไกลแล้วค่ะ หรือจะนั่งรถเมล์มาลงแถวท่าเตียน หรือ โรงเรียนราชินี ก็ได้เช่นกันค่ะ

ประวัติความเป็นมาของจักรพงษ์วิลล่า

วังจักรพงษ์ หรือ บ้านจักรพงษ์ ตั้งอยู่ที่ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ติดกับโรงเรียนราชินี เคยเป็นตำหนักส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ซึ่งสมเด็จพระเชษฐาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ โปรดให้สร้างวังจักรพงษ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2452 เพื่อประทานให้เป็นวังที่ประทับของ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ  ตลอดจนใช้เป็นที่ประทับพักผ่อนรับรองพระอาคันตุกะ และเป็นท่าเรือส่วนพระองค์ นอกเหนือจากวังที่ประทับ คือ วังปารุสกวัน โดยเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถฯ จะทรงเรียกบ้านหลังนี้ว่า วังท่าเตียน

พระตำหนักจักรพงษ์ที่สร้างมาตั้งแต่สมัย ร.5

ต่อมาในปี พ.ศ. 2456 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) โปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นที่ประทับชั่วคราวของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา เมื่อครั้งทรงสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ รวมถึงช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และคณะราษฎรได้ยึดวังปารุสก์เป็นกองบัญชาการ ก็มีการแปรพระราชฐานมาประทับอยู่ที่วังนี้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2481 เมื่อพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์เสด็จกลับจากการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ พร้อมหม่อมอาลิซาเบท ผู้เป็นชายา จึงเปลี่ยนชื่อวังนี้เป็น วังจักรพงษ์ และปรับปรุงเป็นที่ประทับสืบมา

บ้านพักที่เปิดให้บริการกับคนทั่วไปเป็น B&B

เมื่อพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2506 วังจักรพงษ์จึงตกเป็นของทายาทเพียงคนเดียวของราชสกุลจักรพงษ์ คือ หม่อมราชวงศ์หญิงนริศรา จักรพงษ์ ปัจจุบันวังจักรพงษ์เป็นที่ตั้งของสำนักพิมพ์ริเวอร์บุ๊ค จักรพงษ์วิลล่า และมูลนิธิโลกสีเขียว ด้านหน้ายังมีคาเฟ่สองแห่งเปิดให้บริการ คือ White Mouse Bar & Cafe และ River Books cafe ค่ะ ถ้ามีโอกาสคงจะแวะไปจิบกาแฟและทานของว่างที่สองร้านนี้ค่ะ

พาชมสถานที่พร้อมเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวังจักรพงษ์ให้ลูกค้าฟัง

สถาปัตยกรรมของวังจักรพงษ์

วังจักรพงษ์ สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก เป็นอาคารตึกสไตล์อิตาเลียนวิลล่า สร้างโดยสถาปนิกชาวอังกฤษชื่อ เอ็ดเวิร์ด ฮีลี ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสถานทูตอังกฤษ ที่ถนนวิทยุ (ปัจจุบันโดนทุบ เพื่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานด้านหลัง Central Embassy) ตอนหน้ามี 2 ชั้น ปีกซ้ายตอนในก่อสูงขึ้นเป็น 3 ชั้น และมีหอสูงหลังคาทรงโดม อีกชั้นหนึ่ง มีมุขที่ตอนกลางอาคารเพียงมุขเดียว บริเวณผนังมุข ก่อเป็นเสานูนประดับ ลวดลายปูนปั้นบริเวณหัวเสาชั้น 2 และใกล้ฐานชั้นล่าง ส่วนที่เป็นหอสูงเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จอมพล สมเด็จพระเชษฐาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ด้านล่างตรงห้องนั่งเล่นทำเป็นกระจกทรงโค้งเพื่อให้สามารถมองเห็นบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มตา

บ้านพัก

ปัจจุบันวังจักรพงษ์ ยังเป็นที่พำนักของ หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ ซึ่งใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอังกฤษกับบุตรชายคนเล็ก ส่วนบุตรชายคนโต “ฮิวโก้” จุลจักร จักรพงษ์ พักอยู่ที่เรือนไม้สองชั้นใกล้สระน้ำในบริเวณวัง ส่วนหน้าวังที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา จัดเป็นโรงแรมขนาด 3 ห้องพัก ชื่อว่า “จักรพงษ์วิลล่า”

บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาและอาหารค่ำสุดพิเศษ

เรือนริมน้ำเป็นห้องรับประทานอาหารของแขกที่มาพักและแขกที่มาทานอาหาร

หลังจากไปตะลุยไหว้พระมาตั้งแต่เช้า เราก็มาปิดท้ายวันกับอาหารค่ำมื้อพิเศษ Private Dinning at Chakrabongse Villas กันค่ะ เรามาถึงเร็วกว่าเวลานัดนิดหน่อยนะคะ ประมาณ 5 โมงเย็นนิด ๆ พบว่าประตูบ้านปิดนะคะ ไม่มีที่จอดรถก็เลยโทรไปหาพนักงานค่ะ ได้ความว่าเดี๋ยวจะให้ รปภ เปิดประตูให้ค่ะ เราก็เลยต้องถอยหลังกันนิดนึงเพื่อเข้าไปจอดรถด้านในค่ะ ดังนั้น ถ้าใครจะไปทานข้าวและขับรถไป อย่าลืมโทรไปบอกพนักงานนะคะ เค้ามีที่จอดรถอยู่ด้านในค่ะ เราเข้าไปถึงก็จอดรถ แล้วเดินเข้าไปบริเวณตำหนักได้เลยค่ะ หากไม่ได้จองที่พัก หรือโต๊ะอาหารไว้จะไม่สามารถเข้ามาถ่ายรูปบริเวณตำหนักได้นะคะ แม้ว่าจะเป็นลูกค้าคาเฟ่ทั้งสองแห่งก็ตามค่ะ

Knot ได้เก็บภาพบันทึกคลิปวิดีโอตั้งแต่ทางเข้าวังจักรพงษ์ไปจนถึงบรรยากาศริมแม่น้ำ ตลอดจนอาหารมาให้ทุกท่านได้ชมกันด้วยค่ะ

ที่มา: วิกิพีเดีย Kapook.com และ เว็บไซต์ Chakrabonsevillas

สุดท้ายนี้ Knot ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม Trips in My Memory มาตลอดค่ะ ช่วงนี้ Knot ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศเนื่องจากน่านฟ้าเรายังปิดอยู่นะคะ แต่ Knot ก็จะพาทุกท่านเดินทางไปเที่ยวยังที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย เปิดประสบการณ์กับเที่ยวเมืองไทยเหมือนไปเมืองนอกด้วยกันค่ะ การมาทานอาหารค่ำที่จักรพงษ์วิลล่า เป็นการรับประทานอาหารไทย ที่เสิร์ฟและให้บริการเป็นคอร์สแบบตะวันตกค่ะ เรียกได้ว่ามีการประยุกต์ของว่าง อาหารจานหลัก และของหวานออกมาได้อย่างลงตัวมาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะเมนูสุดพิเศษของวันนี้ นั่นก็คือ เค้กสังขยาฟักทองค่ะ เนื่องจากเดือนสิงหาคมเป็นวันเกิดของคุณ Juth ค่ะ และเราก็คงไม่ได้มีเวลามาทานอาหารค่ำพิเศษๆ อย่างนี้ Knot ก็เลยขอให้ทางร้านจัดเค้กให้เพื่อ Surprise คุณ Juth ค่ะ ซึ่ง Knot ก็คิดว่าคงเป็นเค้กปกติจากคาเฟ่ด้านหน้าค่ะ แต่ได้มาเป็น สังขยาฟักทองทั้งลูก ซึ่งอร่อยมาก และที่สำคัญยังเป็นขนมหวานมงคลมีความหมายดี ๆ อีกด้วยค่ะ

เค้กสังขยาฟังทอง จัดให้โดยทีมงานจักรพงษ์วิลล่า

สังขยาฟักทอง เป็นคำอวยพรให้ “มีฐานะที่ร่ำรวยเก็บออมหอมริบเงินเหมือนผอบของฟักทองสังขยาก็เป็นความรักที่หวานมันชื่นมื่น” อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ ยังตกแต่งมาด้วยฝอยทองและทองหยอดซึ่งมีความหมายว่าขอให้ “มีฐานะร่ำรวย มีเงินทองมากมาย หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง” ซึ่งถ้าดูในคลิปจะเห็นสีหน้าดูงง ๆ ของคุณ Juth นะคะ เพราะอีกหลายวันเลยกว่าจะถึงวันเกิดค่ะ

สุดท้ายนี้ Knot ขอฝากทุกท่านกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม กดกระดิ่งแจ้งเตือน ที่ Facebook: Trips in My Memory
YouTube: Trips in My Memory
IG: Trips in My Memory

แล้วพบกันใหม่ในโพสต์ต่อไปค่ะ Knot จะพยายามอัพคลิปใหม่บน YouTube สัปดาห์ละสองครั้งนะคะ วันอังคารและวันพฤหัส เป็นอย่างน้อยค่ะ ถ้าใครคิดถึงกันตามไปดูกันได้นะคะ สำหรับการโพสต์บนเว็บไซต์ Trips in My Memory Knot ก็จะพยายามอัพเดทให้ได้สัปดาห์ละครั้งเช่นกันค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ