Shopping in Osaka

สวัสดีค่ะทุกคน โพสต์นี้ Knot จะพาไปช้อปปิ้งที่ Osaka กันค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวที่มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นมาหลายครั้ง ไปเที่ยวมาก็หลายเมือง ตั้งแต่ Sapporo, Tokyo, Kyoto, Nagoya ลงมาจนถึง Osaka ส่วนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเลยก็จะเป็นทางตอนใต้ของญี่ปุ่นแถวๆ Fukuoka, Okinawa เท่านั้น Knot ขอบอกว่าเมื่อเทียบราคาสินค้าโดยเฉพาะพวกเครื่องสำอางค์ เช่น โฟมล้างหน้า ครีมบำรุงต่างๆ สินค้าชนิดเดียวกัน แบรนด์เดียวกัน ซื้อที่ร้านชื่อเดียวกัน ถ้าเราซื้อที่ Osaka จะถูกที่สุด แม้ราคาจะต่างกันไม่มากนัก แต่ถ้าซื้อเยอะๆ ก็ต่างกันเยอะนะคะ

แหล่งช้อปปิ้งใน Osaka

Osaka มีแหล่งช้อปปิ้งที่น่าเดินอยู่ 3 ที่ค่ะ ได้แก่ Namba, Umeda และ Tennoji ทริปล่าสุดที่เราไปเดินช้อปปิ้งกันทุกวัน จะอยู่ในพื้นที่ของ Numba ค่ะ ก่อนที่จะเจาะลึก Knot ของเล่าถึงความแตกต่างของทั้งสามพื้นที่กันก่อนนะคะ

1. Numba หรือ นัมบะ

นัมบะ หรือ มินามิ นัมบะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดอยู่ทางตอนใต้ของ Osaka ย่านนี้มีของเราให้ได้เลือกซื้อกันตั้งแต่ Luxury Brands เช่น Chanel, LV, Gucci High Street Brands เช่น Zara, Diesels, Uniqlo, MUJI และยังมีร้านอาหาร ร้านขนมอีกมากมายให้เราเลือกรับประทานได้ค่ะ

ย่านนี้ยังมีแหล่งช้อปปิ้งย่อยๆ ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ก็คือ Dotonburi ที่มีแสงไฟสวยงาม ที่ใครมาเที่ยวโอซาก้าก็ต้องมาถ่ายรูปกับป้าย Glico นั่นเองค่ะ นอกจากป้าย Glico แล้ว ย่านนี้ยังมีร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ มากมายให้เราเลือกซื้อเลือกชิมกันค่ะ

จาก Dotonburi หากเราเดินข้ามแม่น้ำจะเห็นร้านค้าหลากหลาย ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง Shinsaibashi ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งอีกแหล่งนึงในย่านนี้ที่มีสินค้าให้เราเลือกซื้อมากมาย มีทั้งห้างสรรพสินค้า Diamaru, Uniqlo, GU ซอยที่เราเดินนี้จะขนาดกับถนนอีกเส้นที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม และ High Street Brands ค่ะ

นอกจากแหล่งช้อปปิ้งทั้งสองแหล่งนี้แล้ว ใกล้ Namba Station ก็ยังมี NAMBA PARKS ที่มีร้านค้ากว่า 200 ร้านตั้งอยู่ค่ะ ซึ่ง Knot และคุณ Juth ก็ไปเดิน Big Camera สาขานี้ค่ะ หากชอบเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้า ก็จะมี NAMBA MARUI (OIOI) ซึ่งเป็นห้างที่เป็นที่นิยมของเด็กวัยรุ่น รวบรวมแฟชั่นทันสมัยทั้งจากโตเกียว โอซาก้า และทั่วโลกอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ Shinsaibashi ยังมี Shopping complex ใต้ดินที่ใหญ่โต ร้านอาหารอร่อย ชื่อว่า CRYSTA มีร้านค้าต่างๆ กว่า 100 ร้านค้า ทริปนี้ Knot ไปลองราเมงกันมาด้วยค่ะ ก็อร่อยดีค่ะ

เราสามารถเลือกซื้อเครื่องสำอางค์ ขนม ของฝากต่างๆ จากร้านขายยาได้เลยค่ะ Knot แนะนำว่า หากทราบว่าต้องการซื้ออะไร ลองเดินดูโปรโมชันสินค้านั้นๆ ของแต่ละร้านแล้วเทียบราคาดูก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ เพราะบางร้าน ครีมกันแดดมีโปรโมชัน อีกร้านจะลดราคาอย่างอื่น ถ้ามีเวลาก็ค่อยๆ เทียบราคาก่อนแล้วตัดวินใจซื้อก่อนกลับบ้านค่ะ หากไม่มีเวลา Knot แนะนำร้านสีเหลืองกับร้านสีแดงค่ะ สองร้านมีมีโปรโมชันเป็นประจำค่ะ ตอนชำระเงินอย่าลืมจ่ายที่ Tax Free Counter นะคะ ลดทันที 5% เลยค่ะ แต่ร้านขายยาบางร้านจะไม่มี Counter Tax free นะคะ แปลว่าเค้าไม่ร่วมมือกับรัฐบาล ก็จะคืนภาษีไม่ได้ค่ะ

เดินช้อปปิ้งหิวก็หาของกินเล็กๆ น้อยๆ รองท้องได้ตลอดค่ะ แถวนี้มีขนม ของทานเล่นให้เราเลือกซื้อได้มากมายค่ะ ทาโกะยากิ และไก่ทอดอร่อยมากอย่าพลาดนะคะ

ร้านขายของเล่นญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น โมเดล Gunpla ชุด Costume ต่างๆ ก็อยู่ในย่านนัมบะนี้ค่ะ เนื่องจากร้านของเล่นที่ขายเฉพาะ Gunpla ก็อยู่ที่นี่ค่ะ ราคาต่ำกว่าไทยประมาณ 30-50% ค่ะ แต่บางรุ่นไปซื้อที่ Big Camera ถูกกว่า แต่ใน Big Camera มีแต่รุ่นธรรมดานะคะ ไม่มีรุ่น Limited ค่ะ อ่านเกี่ยวกับการเดินทางไปซื้อ Gunpla ได้ที่นี่

2. Umeda หรือ อุเมดะ

อุเมดะเป็นศูนย์กลางของย่านคิตะ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับมินามิค่ะ หากนึกไม่ออกว่าย่านนี้อยู่ตรงไหน Knot ขอบอกว่าเป็นพื้นที่โดยรอบของสถานีรถไฟ JR Osaka ค่ะ ซึ่งมีร้านค้ามากมายให้เราเดินเลือกซื้อสินค้ากันค่ะ ที่ Knot ชอบที่สุดก็จะเป็น Uniqlo และ Yodobayashi ซึ่งเป็นร้านที่ขายของทุกอย่างคล้ายๆ กับ Big Camera ค่ะ ถ้าใครพักแถวนี้แนะนำให้เดินช้อปปิ้งในพื้นที่ได้เลยค่ะ ร้านค้าไม่แตกต่างจากแถว Namba มากนัก ยกเว้นที่นัมบะจะมี Donki ร้านขายของฝากที่เปิดตลอด 24 ชม ค่ะ หากชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมหรูต่างๆ ลองเดินไปเลือกซื้อในห้างสรรพสินค้า HERBIS PLAZA หรือ HERBIS PLAZA ENT ที่มีทั้งร้านแบรนด์เนมหรูและร้านอาหารกว่า 40 ร้านให้เราเลือกช้อปแและชิมกันค่ะ

อีกหนึ่ง Landmark ของย่านนี้ ก็คือ HEP FIVE  ชิงช้าสวรรค์สีแดงที่อยู่บนอาคาร 13 ชั้นซึ่งมีร้านค้ามากมายกว่า 170 ร้านให้ได้เลือกซื้อสินค้ากันค่ะ หากจะขึ้นไปชมวิวเหนือท้องฟ้าโอซาก้าอยู่แล้ว ที่นี่ก็จะเป็นห้างที่น่าเดินอีกแห่งนึงค่ะ

ศูนย์การค้าใต้ดินของย่านนี้มีชื่อว่า Diamor Osaka มีร้านค้ากว่า 100 ร้านค้า ตกแต่งสวยงามเหมือนเดินอยู่บนถนนในประเทศแถบยุโรปค่ะ และถ้าเดินดีๆ ลองมองหาร้านนำเที่ยวที่ขายตั๋วท่องเที่ยวต่างๆ ถ้าโชคดีอาจจะได้บัตรเข้า Universal Studio ในราคาพิเศษค่ะ Knot เคยได้มาแล้วค่ะ ร้านนี้อยู่ใกล้ๆ ร้านกาแฟ Detour ค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าเดินไปยังไงค่ะ ตอนนั้นกำลังหลงทาง งง อยู่ค่ะ

นอกจากนี้ ด้านหลังโรงแรม New Osaka Hotel ยังมีร้านราเมงอร่อยๆ ให้เราได้ลิ้มลองรสชาติแบบท้องถิ่นด้วยค่ะ แนะนำว่าให้ถามทางที่พนักงานโรงแรมค่ะ เดินเข้าตรอกหลังโรงแรมตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 300 ม ร้านอยู่ซ้ายมือ ทาโกะยากิแถวนั้น ที่มีคนต่อคิวเยอะๆ เปิดขายดึกๆ ก็อร่อยมากค่ะ

3. Tennoji หรือ เทนโนจิ

อยู่ทางตอนใต้ของ Dotonbori ย่าน Tennoji เรามักจะรู้จักชื่อของชินเซไก (Shinsekai) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนอันโด่งดัง หรือจะเป็นหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku) แต่ปัจจุบันย่านนี้ได้มีการพัฒนาเพื่อเป็นศูนย์กลางทางการค้าอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้าด้วยค่ะ

ทริปนี้ Knot ไปแถวนี้เพื่อไปวัด Tennoji ก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของย่านนี้มากมายเลยทีเดียวค่ะ ปัจจุบัน นอกจากวัดแล้ว Tennoji ยังเป็นที่ตั้งของดึกที่สูงทุกสุดในญี่ปุ่น Abeno Harukas ซึ่งมีความสูงมากกว่า 300 ม สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2014 ภายในอาคารแบ่งเป็น 16 ชั้นมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร หอดูดาว และพิพิธภัณฑ์ให้เราได้เลือกเที่ยวชมกันค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีห้างฯ Tennoji MIO ที่เชื่อมต่อกับสถานี Tennoji Station โดยตรง เราต้องเดินผ่านห้างฯ นี้เพื่อไปขึ้นรถรางค่ะ ห้างนี้มี 12 ชั้น มีร้านค้ามากมายโดยเฉพาะสินค้าสำหรับผู้หญิงค่ะ

ย่านนี้ยังมีห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโอซาก้า ชื่อว่า Abeno Q’s Mall ซึ่งมีร้านค้าชื่อดังต่างๆ กว่า 250 ร้านค้า เช่น UNIQLO, GU, ZARA, Bershka และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีร้านฮิปๆ เช่น Shibuya 109 ABENO, TOKYU HANDS ซึ่งจำหน่ายสินค้าในธีมของ SNOOPY และ ONE PIECE อีกด้วย ใครเป็นแฟนของ One Piece พลาดไม่ได้ค่ะ

ของ (ต้อง) ห้ามพลาด

หลายคนอาจกำลังคิดว่า มาโอซาก้าหรือญี่ปุ่นทั้งที ซื้ออะไรดีคะ Knot ลองลิสต์มาให้เผื่อใครคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรมาฝากคนที่บ้านหรือเพื่อนๆ ค่ะ

• โมเดลของเล่น ไม่ว่าจะเป็น Gunpla หรือ โมเดลการ์ตูนญี่ปุ่นต่างๆ เช่น One Pieces ค่ะ ที่โอซาก้าใกล้ๆ Namba Station มีขายเยอะมากค่ะ มีรุ่น Limited Edition มากมาย และยังมีทั้งของใหม่ ของมือสองให้เลือกซื้อไปสะสมได้ในราคาประหยัดกว่าที่บ้านเรา 20-50% กันเลยค่ะ
• เครื่องสำอางค์แบรนด์ญี่ปุ่นต่างๆ โดยเฉพาะ ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ของ SKII ชิเซโด้ โฟมล้างหน้า Perfect Whip (ถูกมาก) แผ่นลอกสิวเสี้ยนของ Biore แผ่นแปะส้นเท้าเพื่อรักษาเท้าแตก Kao เป็นต้น จริงๆ ยังมีเครื่องสำอางค์ และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากมายในราคาที่น่าลองใช้ค่ะ
• ของกิน/ขนม เช่น ทาโกะยากิ เค้ก พายกรอบ ผลิตภัณฑ์จากชาเขียว คิทแคต และที่สำคัญโตเกียวมา Tokyo Banana ที่โอซาก้าก็มี Osaka Petit Banana ค่ะ ถามว่าอร่อยไหม เอาจริงๆ กล้วยหอมบ้านเราอร่อยกว่าค่ะ
• เสื้อผ้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น Uniqlo, Muji, Issey Miyake เป็นต้น

ข้อควรระวังเวลา Shopping ในญี่ปุ่น

หากใครจะซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นต้องระวังเรื่องการแปลงไฟนะคะ ไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นมีกำลัง 110V ในขณะที่บ้านเราเป็น 220-240V ดังนั้นหากเราจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น เช่น กล้องถ่ายรูป เครื่องชงกาแฟ ไดร์เป่าผม ควรสอบถามเรื่องไฟฟ้าและการแปลงไฟด้วยค่ะ เพราะหากเราต้องมาซื้อเครื่องแปลงไฟ หรือ Transformer ซึ่งหายากและราคาแพง พอรวมกับราคาสินค้าที่เราซื้อมา อาจจะแพงกว่าที่เราจะซื้อที่บ้านเรานะคะ

เมื่อช้อปปิ้งเสร็จแล้วก็จะประมาณในรูปค่ะ กระเป๋าคลอดลูกมากมาย ขาไปจาก กทม. ไปด้วยกระเป๋าเดินทางคนละใบค่ะ แถมด้านในของใบใหญ่ยังโล่งๆ ด้วยค่ะ เรียกว่าพื้นที่เหลือเกินครึ่ง ขากลับก็อย่างที่เห็นค่ะ มีกระเป๋าลูกคลอดออกมาเป็นลองชอมไซส์พิเศษขยายได้ และก็กระเป๋าผ้าอีกใบ โหลดลงเครื่องกลับบ้าน กทม. กันค่ะ เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ Knot ไม่เคยพลาดตอนจัดกระเป๋าก็คือ ลองชอมใบนี้เลยค่ะ เป็นหนึ่งในสมาชิกของทุกทริปเสมอ มิฉะนั้น อาจต้องคลอดลูกออกมาเป็นกระเป๋าเดินทางกัน เหมือนตอนไปอังกฤษที่คุณ Juth ถอย Carry on ใหม่ 1 ใบค่ะ

Knot ก็ขอจบโพสต์ Shopping in Osaka นี้ไว้แต่เพียงเท่านี้นะคะ ทริปต่อไปที่ Knot จะนำมาแบ่งปันกันจะเป็นทริปไหนอย่าลืมติดตามกันนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม Trips in My Memory ด้วยนะคะ ชอบไม่ชอบ หรืออยากให้พาไปเที่ยวที่ไหนแนะนำได้นะคะ Knot โพสต์ต่อไปจะเป็นทริปอะไร รอติดตามกันได้เร็วๆ นี้ที่ Facebook, IG และ Youtube: @TripsinMyMemory ค่ะ แล้วเจอกันในโพสต์ต่อไปค่ะ